google.com, pub-7156051143880097, DIRECT, f08c47fec0942fa0

วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

สรรพคุณของเห็ด Phellinus igniarius ที่น่าสนใจ

 สรรพคุณของเห็ด Phellinus igniarius ที่น่าสนใจเพิ่มเติม โดยอ้างอิงจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์

1. สรรพคุณต้านมะเร็ง (Anticancer Properties):

กลไกการออกฤทธิ์:

กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน: สาร Polysaccharides เช่น Beta-glucans ช่วยกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกัน ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ในการทำลายเซลล์มะเร็ง

ยับยั้งการเจริญเติบโต: สาร Triterpenoids บางชนิด ยับยั้งการเจริญ และ การแพร่กระจาย ของเซลล์มะเร็ง
ชักนำให้เซลล์มะเร็งตาย: สารสกัดบางชนิด อาจกระตุ้นให้เซลล์มะเร็ง เข้าสู่กระบวนการ Apoptosis (การตายของเซลล์แบบปกติ)
งานวิจัย: มีงานวิจัย in vitro (ในหลอดทดลอง) และ in vivo (ในสัตว์ทดลอง) ที่แสดงให้เห็นถึงฤทธิ์ของสารสกัดจาก Phellinus igniarius ต่อเซลล์มะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้
ข้อควรระวัง: ยังต้องศึกษาวิจัยในมนุษย์เพิ่มเติม เพื่อยืนยันประสิทธิภาพ และ ความปลอดภัย

2. สรรพคุณอื่นๆ:

ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant): สาร Polyphenols ในเห็ด ช่วยปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ และ มะเร็ง

ต้านการอักเสบ (Anti-Inflammatory): สารสกัด อาจช่วยลดการอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรค เช่น ข้ออักเสบ
ลดระดับน้ำตาลในเลือด (Antidiabetic Potential): งานวิจัยบางชิ้น พบว่า สารสกัดอาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาล
ต้านไวรัส (Antiviral): มีงานวิจัยเบื้องต้น ที่พบว่า สารสกัด อาจมีฤทธิ์ยับยั้งไวรัส

ข้อควรตระหนัก:

ไม่ใช่ยาวิเศษ: เห็ด Phellinus igniarius ไม่สามารถรักษาโรคได้

งานวิจัยยังมีจำกัด: จำเป็นต้องศึกษาวิจัยเพิ่มเติม
ปรึกษาแพทย์: ก่อนใช้ ควรปรึกษาแพทย์ หรือ ผู้เชี่ยวชาญ


...............................................................

สูตรดองเห็ด Phellinus igniarius กับวอดก้า องุ่น และ น้ำผึ้ง

สูตรดองเห็ด Phellinus igniarius กับวอดก้า องุ่น และ น้ำผึ้ง สำหรับขวดขนาด 1 ขวด (ประมาณ 700 มิลลิลิตร) กันค่ะ

ส่วนผสม:

เห็ด Phellinus igniarius แห้ง: 50 - 80 กรัม (ปรับได้ตามความชอบ ถ้าชอบเข้มข้นใส่เยอะหน่อย)

วอดก้า (ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น): 1 ขวด (700 มิลลิลิตร)
องุ่นไร้เมล็ด: 100 - 150 กรัม (ประมาณ 1 กำมือ)
น้ำผึ้งแท้: 1-2 ช้อนโต๊ะ (ชิมรสชาติ และ ปรับเพิ่ม/ลด ได้)

วิธีทำ:

ล้างเห็ดให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ

ล้างองุ่น ผ่าครึ่ง หรือ บีบเมล็ดออก
นำเห็ด องุ่น และ น้ำผึ้ง ใส่ลงในขวดโหลแก้วที่สะอาด และ แห้งสนิท
เทวอดก้าลงไป ให้ท่วมส่วนผสม
ปิดฝาขวดให้แน่น เขย่าเบาๆ เพื่อให้ส่วนผสมเข้ากัน
เก็บในที่แห้งและเย็น เป็นเวลาอย่างน้อย 1-3 เดือน จึงนำมารับประทาน

ข้อแนะนำ:

ก่อนบรรจุขวด ควรชิมรสชาติของน้ำดอง และ ปรับแต่งตามชอบ

ช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ควรกลับขวด หรือ เขย่าเบาๆ วันละครั้ง เพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันดี

หมายเหตุ:

สูตรนี้เป็นเพียงแนวทาง คุณสามารถปรับเปลี่ยนปริมาณ ตามความชอบได้


....................................................................

การปิดฝาขวด สำหรับดองเห็ด Phellinus igniarius กับวอดก้า องุ่น และน้ำผึ้ง ควรปิดฝาให้สนิทตลอดเวลา

เหตุผล:

ป้องกันการระเหย: แอลกอฮอล์ในวอดก้า มีคุณสมบัติระเหยง่าย การปิดฝาไม่สนิท จะทำให้แอลกอฮอล์ระเหยออกไป ส่งผลต่อรสชาติ และ ความเข้มข้น

ป้องกันการปนเปื้อน: การเปิดฝาบ่อยๆ อาจทำให้ อากาศ ความชื้น และ สิ่งสกปรก เข้าไปปนเปื้อน
รสชาติ และ คุณภาพ: การปิดฝาสนิท ช่วยคงรสชาติ กลิ่น และ คุณภาพ ของส่วนผสม

ข้อแนะนำ:

เลือกภาชนะที่ปิดสนิท: ใช้ขวดแก้ว หรือ โหลแก้ว ที่มีฝาปิดสนิท

ตรวจสอบฝา: ก่อนปิดฝา ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า ฝาอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยแตก หรือ รั่ว
ไม่เขย่าแรงเกินไป: ในช่วงแรก ที่ต้องการให้ส่วนผสมเข้ากัน ให้เขย่าเบาๆ ก็เพียงพอ
การปิดฝาสนิท เป็นสิ่งสำคัญ ในการดอง เพื่อให้ได้รสชาติ และ คุณภาพที่ดีที่สุด
........................................

หลังจากดองครบ 3 เดือน ไม่จำเป็นต้องเอากากเห็ด และ องุ่นออก ค่ะ สามารถเก็บไว้ในขวดได้เลย

เหตุผล:

รสชาติ และ กลิ่น: กากเห็ด และ องุ่น ยังคงมีรสชาติ และ กลิ่น ที่สามารถละลายออกมาได้อีก

สารสำคัญ: อาจยังมีสารสำคัญ บางส่วน ที่ยังคงอยู่ในกากเห็ด
ความสะดวก: ไม่ต้องเสียเวลา และ ยุ่งยาก ในการกรอง

ข้อแนะนำ:

การริน: เวลาจะดื่ม ให้รินเฉพาะส่วนที่เป็นน้ำ โดยเทเบาๆ

การกรอง: ถ้าไม่ชอบ หรือ กังวลเรื่องตะกอน สามารถกรองด้วยผ้าขาวบาง ก่อนดื่มก็ได้
การเก็บรักษา: หลังจากเปิดขวดแล้ว ควรเก็บในตู้เย็น และ ควรดื่มให้หมดภายใน 1-2 เดือน

สรุป:

การเอากากออกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความชอบ และ ความสะดวก ของคุณ



...........................................................................

การรับประทานเห็ด Phellinus igniarius ที่ดองกับวอดก้า องุ่น และน้ำผึ้ง ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ขึ้นอยู่กับความชอบ และ วัตถุประสงค์

ปริมาณที่แนะนำ:

เริ่มต้น: ดื่มครั้งละ 1-2 ช้อนชา (ประมาณ 5-10 มิลลิลิตร)

สังเกตอาการ: หลังจากดื่มแล้ว ให้สังเกตอาการของร่างกาย
ค่อยๆ เพิ่มปริมาณ: ถ้าไม่มีอาการผิดปกติ สามารถค่อยๆ เพิ่มปริมาณ ตามความเหมาะสม

ช่วงเวลาที่ดื่ม:

ก่อนอาหาร: อาจช่วยเรียกน้ำย่อย

หลังอาหาร: อาจช่วยในการย่อยอาหาร
ก่อนนอน: บางคนเชื่อว่า ช่วยให้ผ่อนคลาย นอนหลับสบาย

จำนวนมื้อต่อวัน:

เริ่มต้น: 1 มื้อต่อวัน

ค่อยๆ เพิ่ม: สามารถเพิ่มเป็น 2-3 มื้อต่อวัน ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการ และ การตอบสนองของร่างกาย

ข้อควรระวัง:

ไม่ดื่มเกินปริมาณ: เนื่องจากมีแอลกอฮอล์

ไม่ดื่ม หาก:
แพ้แอลกอฮอล์
กำลังตั้งครรภ์ หรือ ให้นมบุตร
มีโรคประจำตัว เช่น โรคตับ โรคไต
กำลังใช้ยาบางชนิด

ปรึกษาแพทย์ หรือ ผู้เชี่ยวชาญ: ก่อนรับประทาน โดยเฉพาะ หากมีโรคประจำตัว หรือ กำลังใช้ยาอื่นๆ

ที่สำคัญที่สุด คือ การฟังเสียงร่างกาย และ ปรับการรับประทาน ให้เหมาะสมกับตัวเอง

............................................







การใส่ผลไม้เล็กน้อย เช่น องุ่น หรือ ลูกท้อ ลงไปดองกับเห็ด Phellinus igniarius

 การใส่ผลไม้เล็กน้อย เช่น องุ่น หรือ ลูกท้อ ลงไปดองกับเห็ด Phellinus igniarius และวอดก้า เป็นการเพิ่มมิติใหม่ให้กับการดอง ทั้งรสชาติ กลิ่น และสีสัน

ข้อดีของการใส่ผลไม้:

รสชาติกลมกล่อม: ความหวานอมเปรี้ยวจากองุ่น หรือลูกท้อ จะช่วยลดความขมของเห็ด และ เพิ่มความกลมกล่อม

กลิ่นหอม: ให้กลิ่นหอมสดชื่น
สีสันสวยงาม: ทำให้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น

ข้อแนะนำ:

เลือกผลไม้สดใหม่: ควรเลือกองุ่น หรือ ลูกท้อ ที่สด สะอาด ไม่มีรอยช้ำ

ปริมาณ: ใส่ผลไม้ในปริมาณเล็กน้อย ประมาณ 10-20% ของน้ำหนักเห็ด เพื่อไม่ให้รสชาติ และ กลิ่น โดดเกินไป

การเตรียมผลไม้:

องุ่น: ล้างให้สะอาด ผ่าครึ่ง หรือ บีบเมล็ดออก

ลูกท้อ: ล้างให้สะอาด ปอกเปลือก หั่นชิ้นพอดีคำ
ระยะเวลาการดอง: อาจใช้เวลานานกว่าการดองแบบเดิมเล็กน้อย สังเกตสี และ กลิ่น เป็นหลัก

ข้อควรระวัง:

ความสะอาด: ล้างผลไม้ให้สะอาด เพื่อป้องกันการเน่าเสีย

การเลือกผลไม้: ผลไม้บางชนิด อาจไม่เหมาะกับการดอง เช่น ผลไม้ที่มีน้ำมากเกินไป
การชิม: ก่อนบรรจุขวด ควรชิมรสชาติ และ ปรับแต่งตามชอบ

การทดลอง และ การผสมผสานรสชาติ เป็นเสน่ห์ของการทำอาหาร ขอให้สนุกกับการสร้างสรรค์ และ ได้รสชาติที่ถูกใจ


................................

การดองเห็ด Phellinus igniarius กับวอดก้าที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น

 การดองเห็ด Phellinus igniarius กับวอดก้าที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ทำได้

ข้อดีของการใช้วอดก้าที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น:
รสชาติสะอาด: ไม่รบกวนรสชาติ และ กลิ่น เฉพาะตัวของเห็ด
สีสันเป็นธรรมชาติ: คงสีของเห็ดไว้ได้
เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกลิ่นแรง: เช่น กลิ่นของเหล้าขาว

ข้อแนะนำ:

เลือกวอดก้าคุณภาพดี: ควรเลือกวอดก้าที่ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพดี และ ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน

ความเข้มข้น: ควรเลือกวอดก้าที่มีความเข้มข้นสูง อย่างน้อย 40% ขึ้นไป
อัตราส่วน: แนะนำให้ใช้อัตราส่วน เห็ด 1 ส่วน ต่อ วอดก้า 3-5 ส่วน
การเก็บรักษา: เก็บในภาชนะแก้วที่สะอาด ปิดฝาให้สนิท ในที่แห้งและเย็น
ระยะเวลาการดอง: อย่างน้อย 1-3 เดือน

ข้อควรระวัง:

ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการดอง และ ปริมาณที่เหมาะสม ก่อนลงมือทำ

ไม่ควรรับประทาน หากมีโรคประจำตัว หรือ กำลังใช้ยา ที่ต้องห้าม หรือ ควรระวัง การดื่มแอลกอฮอล์

การดองเห็ดกับวอดก้า เป็นวิธีการถนอมอาหาร และ สกัดสารสำคัญ จากเห็ด แบบง่ายๆ ที่คุณสามารถทำเองได้ที่บ้าน ขอให้สนุกกับการทดลอง และ ได้รสชาติที่ถูกใจ
😊.....................................


...........................................

สามารถนำ Phellinus igniarius ไปดองกับเหล้าได้

 การที่เห็ด Phellinus igniarius สามารถสกัดด้วยเอทานอล (Ethanol) ได้ หมายความว่า เราสามารถนำไปดองกับเหล้าได้เช่นกัน

การดองเห็ดกับเหล้า เป็นวิธีการถนอมอาหาร และ สกัดสารสำคัญ จากธรรมชาติ ที่ทำกันมาแต่โบราณ โดยเฉพาะในวัฒนธรรมเอเชีย

ข้อดีของการดองเห็ดกับเหล้า:

สกัดสารสำคัญ: แอลกอฮอล์ในเหล้า ช่วยดึงสารสำคัญ เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ และ สารออกฤทธิ์อื่นๆ ออกมาจากเห็ดได้

ยืดอายุการเก็บรักษา: แอลกอฮอล์ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์
รสชาติ และ กลิ่น: ได้รสชาติ และ กลิ่น เฉพาะตัว จากเห็ด และ เหล้า ที่ผสมผสานกัน

ข้อควรระวัง:

ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์: ควรใช้เหล้าที่มีความเข้มข้นสูง เช่น เหล้าขาว

ความสะอาด: ภาชนะ และ อุปกรณ์ ต้องสะอาด ปราศจากเชื้อ
ระยะเวลาการดอง: อย่างน้อย 1-3 เดือน

การบริโภค: ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่

หมายเหตุ:

การดองเห็ดกับเหล้า เป็นเพียงวิธีการหนึ่ง ในการบริโภค

ไม่ควรดื่ม หากมีโรคประจำตัว หรือ กำลังใช้ยา ที่ต้องห้าม หรือ ควรระวัง การดื่มแอลกอฮอล์

.....................................
.....................................

การนำเห็ด Phellinus igniarius ไปทำสเปรย์ดราย (Spray drying)

 การนำเห็ด Phellinus igniarius ไปทำสเปรย์ดราย (Spray drying) นั้น ทำได้ และเป็นเทคนิคที่น่าสนใจมากๆ เพื่อแปรรูปเห็ดชนิดนี้ ให้เป็นผง เพื่อความสะดวกในการเก็บรักษา และ ประยุกต์ใช้ต่อไป

ขั้นตอนการทำสเปรย์ดรายเห็ด Phellinus igniarius:

การเตรียมสารสกัด:

ทำความสะอาด: ล้างเห็ดให้สะอาด

สกัดสาร: เลือกวิธีการสกัด เช่น การสกัดด้วยน้ำ การสกัดด้วยเอทานอล เพื่อให้ได้สารสำคัญตามต้องการ
กรอง: กรองสารสกัด เพื่อกำจัดเศษเห็ด

การทำสเปรย์ดราย:

ฉีดพ่นสารสกัด: นำสารสกัดที่เตรียมไว้ ไปฉีดพ่นเป็นละอองฝอย เข้าไปในห้องอบแห้งของเครื่องสเปรย์ดราย

การอบแห้ง: ภายในห้องอบแห้ง จะมีลมร้อน ทำให้ละอองของเหลวแห้งอย่างรวดเร็ว กลายเป็นผงละเอียด
แยกผง: ผงเห็ดที่แห้งแล้ว จะถูกแยกออกจากอากาศ

ข้อดีของการทำสเปรย์ดราย:

คงคุณค่า: ช่วยรักษา รสชาติ กลิ่น สี และ สารสำคัญ ของเห็ดได้ดี

ผงละเอียด ละลายง่าย: สะดวกต่อการนำไปใช้ เช่น ผสมในอาหาร เครื่องดื่ม
ยืดอายุการเก็บรักษา: ผงเห็ดที่ผ่านการสเปรย์ดราย จะมีความชื้นต่ำ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา และ แบคทีเรีย

ข้อควรพิจารณา:

ต้นทุน: การลงทุนเครื่องสเปรย์ดราย ค่อนข้างสูง

เทคนิค: ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ ในการควบคุม อุณหภูมิ และ อัตราการไหล ของเครื่องสเปรย์ดราย

สรุป:

การทำสเปรย์ดราย เป็นเทคนิคที่น่าสนใจ ในการแปรรูปเห็ด Phellinus igniarius เพื่อเพิ่มมูลค่า และ ต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้หลากหลาย
😊

การต้มเห็ดกระถินพิมาน (Phellinus igniarius)

 การต้มเห็ดกระถินพิมาน (Phellinus igniarius) เพื่อบริโภคแบบโบราณนั้น ทำได้ และเป็นวิธีที่นิยมในหลายวัฒนธรรม โดยเฉพาะในจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งมักนำมาต้มเป็นชา หรือ ตุ๋นกับอาหารต่างๆ


วิธีการต้มแบบง่ายๆ:

  • เตรียมเห็ด: ทำความสะอาดเห็ดที่ตากแห้งแล้ว โดยปัดฝุ่น หรือ เช็ดด้วยผ้าสะอาด
  • ต้มน้ำ: ใส่น้ำสะอาดลงในหม้อ โดยใช้น้ำประมาณ 3-4 ลิตร ต่อเห็ด 10-15 กรัม
  • ใส่เห็ด: เมื่อน้ำเดือด ใส่เห็ดลงไป
  • หรี่ไฟตุ๋น: ลดไฟลง ปิดฝาหม้อ ตุ๋นต่ออย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้สารสำคัญในเห็ดละลายออกมา
  • กรองน้ำ: เมื่อครบเวลา กรองเอาน้ำดื่ม สามารถเติมน้ำตาล หรือ น้ำผึ้ง เล็กน้อยเพื่อปรุงรส

ข้อควรระวัง:

  • รสชาติ: เห็ดชนิดนี้มีรสชาติค่อนข้างขม
  • การแพ้: บางคนอาจแพ้เห็ด ควรเริ่มต้นด้วยปริมาณน้อยๆ และสังเกตอาการ
  • ปริมาณ: ไม่ควรรับประทานมากเกินไป
  • ปรึกษาแพทย์แผนจีน: เพื่อขอคำแนะนำ เกี่ยวกับปริมาณที่เหมาะสม และ ระยะเวลาในการบริโภค

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม:

  • แหล่งที่มาของเห็ด: ควรเลือกเห็ดจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ปลอดสารพิษ
  • ความสะอาด: ล้างเห็ดให้สะอาดก่อนนำมาต้ม
  • การเก็บรักษา: ควรเก็บเห็ดแห้งในภาชนะที่ปิดสนิท ในที่แห้งและเย็น

แม้การต้มแบบโบราณ จะเป็นวิธีที่ทำได้ แต่ควรคำนึงถึงข้อควรระวัง และ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัย และ ประสิทธิภาพสูงสุด




.........................................
............................................