โทร+ไลน์ 0809898770 เมื่อจะสั่งซื้อเห็ด
ราคา กก.ละ 5000บาท ส่งฟรี เมื่อโอนเงินก่อน
เห็ดจะถูกส่งเป็นดอกๆ ตามธรรมชาติ โดยไม่ได้ตัดหรือทำอะไรทั้งนั้น
ส่วนใหญ่การทดลองมันจะจบในสัตว์ทดลองเท่านั้น เพราะถ้าจะทดลองในคน มันใช้ทุนเยอะ และข้อห้าม กฏระเบียบ อาสาสมัครที่จะทดลอง มันเลยไปต่อในคนไม่ได้ ก็เท่านั้นละสำหรับงานวิชาการ ไม่เหมือนหมอพื้นบ้าน ต้มได้ ดองเสร็จ ก็เอาให้คนป่วยกินเลย โดยความสมัครใจของผู้ป่วยเอง แต่มันไม่มีการจดบันทึกทางวิชาการ คนป่วยก็ไม่อยากให้เปิดเผย มันก็มีเหตุผลเท่านี้ละ
วิธีกินเห็ดพิมานให้ได้ผลที่สุด
ราคามันแพงขึ้นทุกวัน 3เดือนสุดท้ายของปีร 62 บ.ยากว้านซื้อแทบเกลี้ยงแผ่นดิน ไม่นานคงโดนจดสิทธิ์บัตรในไทย
เมื่อนั้น คนจนจะยิ่งเข้าถึงยากขึ้น เพราะหมอพื้นบ้านที่ใช้มาหลายร้อยปี จนโดนขโมยความรู้ไปใส่หลอดทดลอง แล้วก็ ออกกฏหมายมากดหัวหมอพื้นบ้าน ด้วยคำว่า อย. สุดท้ายของเคยถูกกฏหมายก็กลายเป็นผิดแค่ไปฟอกตัวในห้องแลบ ที่มีทุนเท่านั้น
ต้องการกินแบบเร่งด่วน ก็เอาไปต้ม 5-8 ชม. ไฟอ่อนๆ ใส่น้ำไป 4 เท่า ต้มให้เหลือส่วนเดียว กิน3-4มื้อต่อวัน สัก 1เดือนก็รู้แล้วว่า เบาลงหรือหนักขึ้น
หลังจากนั้นให้เอาเห็ดที่ผ่านการต้มไปตากแดด พอแห้ง แล้วเอาไปดองเหล้า โดยเพิ่มเห็ดใหม่ที่ไม่ผ่านการต้มลงไปด้วย เพราะการสกัดด้วยน้ำ(การต้ม)สารจากเห็ดบางขนิดก็ไม่ละลายออกมา(สารที่มีขั้ว) เอาให้เหล้าท่วมยา เลยมาสัก 1-2เท่าของยานั่นละ ดองไว้ 3-6เดือน แต่ถ้ามันด่วน คนป่วยรอไม่ได้ ก็ทะยอย แบ่งออกมากิน ตั่งแต่ 15วันแรก หรือ 1เดือนแรก(แบ่งออกมาแค่พอใช้)
.
มะเร็งไม่ถูกกับเหล้าหรือแอลกอฮอร์ ก่อนนใช้ นี่ควรเอาไประเหยเอาแอลกอฮอ์ ออกให้หนอก่อน โดยการนึ่ง ไอน้ำด้วยซึ้ง หรือการตุ๋น แบบใข่ตุ้น ด้วยไฟอ่อนๆ นานประมาณว่า ปริมาณ น้ำในขวดที่นึ่ง ยุบลงไปสัก 1ใน3 หริอ 1ใน 4 นั่นละ เพื่อให้มันใจว่า แอลกอฮอร์ถูกไล่ ออกไปหมด แล้วจึงเอาให้คนป่วยกิน มื้อละเป๊กหรือ 1อึก วันละ3-4เวลาในนช่วงเดือนแรก จากนั้นจึงไปเช็คไปวัดค่าเลือด ว่ามันมีแนวโน้มไปทางบวกหรือดีขึ้นบ้างไหม..มนคงยังไม่หายหรอก แต่มันจะบอกได้ว่า มันดีขึ้นหรือเลวลง เท่านั้นละ
แต่อย่างเอาไปทดลองกับคนไกล้ตายแล้วบอกไม่ได้ผลนะ(แต่ถ้าความหวังยังไม่หมดตราบที่ยังมีลมหายใจลองดูครับ ถ้าคนป่วยยังสู้และอยากมีชีวิตอยู่ต่อปาฏิหารย์เกิดขึ้นได้เสมอ) คือมันจะตายแล้ว แบบนี้มันเกินไป สำหรับข้อมูลที่ไม่มีการอ้างอิง
.
ถ้ามีเวลาให้ดองเหล้า สัก1-3-6เดือน เอาตามความด่วนของอาการ ก่อนใช้ให้ระเหยเอาแอลกอฮอร์ ออกก่อนโคยการตุ๋น แบบใข่ตุ๋น นั่นละ(ชาวบ้านอย่างเราคงทำยาได้เท่านี้ ยกเว้นสถานศึกษาให้ใช้ห้องแลบ ก็ว่าไปอย่าง)
หมักเห็ดพิมาน
❤️สํานักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
❤️การศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาพบฤทธิ ์
ต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ ์ยับยั้งการเกิดออกซิเดชั่นของ ไขมัน(lipid peroxidation) ในสารสกัดน้ํา สารสกัดเมทานอล สารสกัดเอทิลอะซิเตท สารในกลุ่ม phenolic สารในกลุ่มflavonoid และสารPPC-Pr
❤️พบฤทธิ์ปกป้องเนื้อเยื่อจากการถูกฉายรังสีใน สารสกัดเอทิลอะซิเตทและสารPPC-Pr
❤️พบฤทธิ์ต้านเซลลฺมะเร็งและเนื้องอกในสารสกัดเอทิลอะซิเตท สารสกัดเมทานอล สารสกัดน้ํา และสารproteoglycan
❤️พบฤทธิ์ต้านการก่อกลายพันธฺุในสารสกัดน้ําและสารสกัดเอทิลอะซิเตท
❤️พบฤทธิ์ต้านการอักเสบในสารสกัดน้ํา สารสกัดเอทิลอะซิเตท และสารPPC-Pr
❤️พบฤทธิ ์ปกป้องตับและไตจากสารพิษในสารสกัดเอทิลอะซิเตท
❤️พบฤทธิ ์ต้านเชื้อจุลชีพในสารสกัดเมทานอล สารในกลุ่มpolyphenols, flavonoids, quinones และterpenes
❤️แต่ทั้งหมดยังเป็นการศึกษาในระดับเซลล์และสัตว์ทดลองเท์านั้น
❤️การทดสอบความเป็นพิษของสารสกัดเอทิลอะซิเตท สารสกัดเมทา
นอล และสารสกัดน้ํา ❤️พบว๋ามีความเป็นพิษที่ค่อนข้างต่ํา
❤️อย่างน้อยก็ได้ทราบว่าเห็ดกระถินพิมานมีแนวโน้มที่จะนําไปพัฒนาเป็นยาที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับภาวะอักเสบต่างๆ ได้
ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล ผู้เชี่ยวชาญด้านเห็ดบอกว่า เห็ดกระถินพิมานมีสรรพคุณในการยับยั้งเซลล์มะเร็งจริง เพราะมีสารโพลีแซคคาไลน์ สารเบตากลูแคน สารไตรโตรปินอย สารเนเชอรัลสเตอรอยด์ ที่เข้าไปช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งตับ มะเร็งถุงน้ำดี มะเร็งกรวยไต มะเร็งปอด
นอกจากโรคมะเร็งแล้วยังพบว่าเห็ดกระถินพิมานสามารถสร้างเม็ดเลือด รักษาโรคเบาหวาน แผลพุพอง ภูมิแพ้ ไข้หวัดใหญ่ ผื่นคัน ไขข้ออักเสบ ได้เช่นกัน
เราสามารถพบเห็ดกระถินพิมานได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย สรรพคุณพื้นบ้านใช้ในการรักษาอาการปวดหู แผลเปื่อย และเริม งานวิจัยฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาในปัจจุบันซึ่งยังคงเป็นเพียงการศึกษาในระดับเซลล์และสัตว์ทดลองพบว่า สารสกัดและสารสำคัญที่แยกได้จากดอกเห็ดมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันรังสี ต้านเซลล์มะเร็งและเนื้องอก ต้านการก่อกลายพันธุ์ ต้านการอักเสบ ช่วยปกป้องตับและไตจากสารพิษ รวมทั้งมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราโรคพืช การศึกษาความเป็นพิษพบว่าสารสกัดที่ได้มีความเป็นพิษที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งค่อนข้างน่าสนใจหากจะมีการนำไปพัฒนาเป็นยาในอนาคต
สารในเห็ดกระถินพิมาน (Phellinus rimosus) ที่มีรายงานมีหลายกลุ่มได้แก่ phenolic compounds, flavonoids, quinones, terpenes, sterols และ polysaccharides และมีข้อมูลการศึกษาวิจัยในเซลล์และสัตว์ทดลองว่า สามารถต้านการอักเสบ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านเซลล์เนื้องอก เป็นต้น สารในเห็ดกระถินพิมานส่วนใหญ่ละลายได้ในแอลกอฮอล์ ดังนั้นการดองเหล้าก็เหมือนการสกัดด้วยแอลกอฮอล์ผสมน้ำ จึงสามารถสกัดสารออกมาได้เกือบทุกกลุ่มปริมาณมากน้อยต่างกันขึ้นกับเปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์ที่ใช้และระยะเวลาในการสกัด อย่างไรก็ตามยังไม่ทราบอัตราส่วนที่เหมาะที่ใช้ในการดองเหล้า เนื่องจากยังไม่มีรายงานขนาดของสารสกัดที่ควรใช้ รวมถึงความเป็นพิษหากใช้ระยะยาวด้วย
มีนาคม 4, 2017 by Sorachai Sahabunyakool
อ้างอิงที่มา https://www.anonbiotec.net/th/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%96%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87/
ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล
ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส(เห็ด)
องค์การสหประชาชาติ ปี พ.ศ. 2524-2548
ย้อนไปตั้งแต่คุณสง่า เอื้อตระกูล อยู่ระหว่างการฝึกภาคสนามในป่าตามภูมิภาคต่างๆของประเทศ ในฐานะนักเรียนโรงเรียนป่าไม้ จังหวัดแพร่ ปี 2506 เป็นต้นมารวมทั้งได้รับการบรรจุทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้เขต อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน จนกระทั่งมีความก้าวหน้าทางราชการเป็นป่าไม้อำเภอในหลายจังหวัดทางภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งเป็นป่าไม้จังหวัดในหลายจังหวัดทั้งภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือและใต้ก่อนที่จะเกษียณอายุในปี 24546 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษ(อาวุโส) ไนท์ซาฟารี เชียงใหม่
เนื่องจากคุณสง่า เอื้อตระกูล เกิดเป็นพี่ชายคนโตในตระกูลเอื้อตระกูล บุตรชายของนายเอื้อ นางแสงมอญ เอื้อตระกูลมีพี่น้องร่วมกันทั้งหมด 5 คน คือ 1. คุณสง่า เอื้อตระกูล 2. อาจารย์แสงจันทร์ เจียศิริพงษ์กุล 3. คุณอนันต์ เอื้อตระกูล อดีตประธานสภาจังหวัดแม่ฮ่องสอน(ถึงแก่กรรม) 4. ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล 5. อาจารย์อรทัย เอื้อตระกูล ทางครอบครัวมีอาชีพค้าขายสินค้าเกษตร บางช่วงหลังการเก็บเกี่ยวเมื่อมีเวลาว่าง จะทำการเพาะเห็ดฟางแบบกองสูงเป็นอาชีพเสริม และตลอดเวลารับราชการของคุณสง่า ที่เกี่ยวข้องกับป่าไม้มาตลอดชีวิตราชการ ได้มีโอกาสเข้าไปปฏิบัติราชการในป่า เพื่อพิทักษ์รักษาป่าในหลายพื้นที่ รวมทั้งมีความสัมพันธ์อันดีกับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า ลาวและกัมพูชา นอกจากนี้ ยังเป็นวิทยากรที่สำคัญในการทำงานกับชาวบ้าน ชาวเขา ที่หากินหรืออาศัยอยู่กับป่าให้มีการอนุรักษ์พิทักษ์รักษาป่ามาโดยตลอดและอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มีโอกาสได้พบได้เห็น ได้ศึกษาความเป็นอยู่และผูกพันกับมวลชนอย่างยาวนาน ในระหว่างปี 2512-2535 เป็นช่วงที่ทางราชการให้สัมปทานการทำไม้ให้แก่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้(ออป.)และเอกชน ทำการตัดสางต้นไม้โดยเฉพาะ ต้นไม้ตายแห้งจากป่าเกือบทั่วประเทศ มีไม้มากมายหลายชนิดที่มีขนาดใหญ่ ได้ถูกตัดโค่น ต้นไม้ที่ถูกตัดโค่นจำนวนไม่น้อยที่มีขนาดใหญ่ บางส่วนของลำต้นหรือกิ่งที่ตายไปแล้ว มักจะมีเห็ดหิ้งหรือเห็ดกระด้างเกิดขึ้น ซึ่งส่วนที่เป็นปลายไม้ รวมทั้งเห็ด ผู้รับสัมปทานทำไม้มักจะปล่อยทิ้งไว้ให้เน่าเปื่อยผุพังอยู่ในป่า มีชาวบ้านมักนิยมเก็บเอาเห็ดที่มีลักษณะที่แข็งเหมือนไม้ มักเรียกเหมารวมเห็ดที่แข็งเหมือนไม้ว่าเห็ดกระด้างหรือเห็ดหิ้ง เป็นเห็ดที่รับประทานไม่ได้ เพราะมีลักษณะแข็งเหมือนไม้(ไม่ใช่เห็ดพิษ) มีลักษณะรูปร่าง สีสัน ขนาด แตกต่างกันไปหลากหลาย ส่วนใหญ่มักขึ้นอยู่กับต้นไม้ที่ตายแล้ว หรือบางส่วนของต้นไม้ที่ตายไปแล้ว บางครั้งจะเห็นเห็ดพวกนี้เกิดขึ้นตามต้นไม้ที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่มันก็จะเจริญอยู่ในส่วนที่เป็นเปลือก ตามง่ามตาของต้นไม้ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า หูดหรือตุ่มต้นไม้ และเข้าใจกันว่า หากมีเห็ดพวกนี้เกิดขึ้นมากๆ ในที่สุด จะทำให้ต้นไม้ตายได้
ดังนั้น เมื่อชาวบ้านพบเห็น หากอยู่ในวิสัยที่เก็บเกี่ยวได้ง่าย ก็จะใช้มีด จอบ หรือเสียมถากออกจากต้นไม้ทิ้ง ด้วยความเชื่อที่ว่า จะเป็นการช่วยรักษาชีวิตของต้นไม้นั้นๆได้ ชาวบ้านบางราย นำเอาเห็ดที่มีลักษณะแข็งเหมือนไม้เหล่านี้ เอาไปใช้เป็นเชื้อเพลิงแทนฟืน บางรายก็จะเก็บสะสมไว้เพราะดูสวยดี เนื่องจาก เห็ดแต่ละดอก จะมีรูปร่างแตกต่างกันไป สวยดี บางรายนำเอาไปแกะสลักเป็นรูปแบบต่างๆ รวมทั้งทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ แต่ที่น่าสนใจ ได้มีหมอพื้นบ้าน แทบทุกภาค นำเห็ดเหล่านี้บางชนิด เอาไปเป็นส่วนผสมสำคัญของยาสมุนไพร ในการรักษาโรคหลากหลาย ดังนั้น ทุกครั้งที่คุณสง่าได้มีโอกาสเข้าไปปฏิบัติราชการในป่า หรือพบปะกับชาวบ้านที่เก็บรวบรวมของจากป่า เมื่อเห็นชาวบ้านตัดเอาเห็ดที่เป็นหูดไม้ทิ้ง หรือนำเอามาเป็นฟืน ก็จะขอบางส่วน หรือซื้อบางส่วนเอามาเก็บสะสมไว้
เนื่องจาก แต่ละดอก มีลักษณะที่แตกต่างกัน เป็นความสวยงามของธรรมชาติ ที่สำคัญ เนื่องจาก มันมีลักษณะพิเศษที่แข็งเหมือนไม้ สามารถเก็บไว้นานๆได้ แน่นอน เห็ดบางอย่าง เช่น เห็ดจวักงูเห่าหรือเห็ดซิ้น ปัจจุบันเรียกเห็ดหลินจือนั้น หากเก็บไว้นานๆ อาจจะมีมอดเข้าไปทำลายผุพังไปได้ แต่มีเห็ดบางชนิดแข็งมาก เช่น เห็ดที่เกิดตามต้นแงะ(ภาษาเหนือ) ต้นจิกหรือต้นเค็ง(ภาษาอิสาน) ต้นเต็ง(ภาษากลาง) เห็ดที่เกิดขึ้นตามต้นดังกล่าว ก็จะเรียกชื่อเห็ดตามนั้น เช่น ทางภาคเหนือ เรียกเห็ดไม้แงะ ทางอิสานเรียกเห็ดจิกหรือเห็ดเค็ง แต่หากขึ้นตามต้นกระถินพิมาน ก็จะเรียกว่า เห็ดกระถินพิมาน เห็ดชนิดนี้แข็งมาก ศัตรูประเภทมอดเข้าไปทำลายได้ยาก เห็ดพวกนี้จะเก็บไว้ได้นานหลายๆปี จากการเริ่มสะสมเห็ดตระกูลเห็ดหิ้งหรือเห็ดกระด้างของคุณสง่านั้น จากเริ่มต้นที่มีไม่มากนัก ก็จะเก็บมาตกแต่งเพื่อความสวยงามตามมุมต่างๆของบ้านและสำนักงานที่อาศัยอยู่ เมื่อมีการย้ายไปปฏิบัติหน้าที่หรือถูกเลื่อนตำแหน่ง ที่จะเป็นจะต้องย้าย ก็จะนำเอาเห็ดบางส่วนที่สวยงามนำติดตัวไปด้วย และมีหลายต่อหลายครั้ง ส่งไปเก็บรวบรวมไว้ยังบ้านเกิดที่บ้านร่องกาศ อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ เพราะทางบ้าน ทำอาชีพเพาะเห็ดนางรม เห็ดนางฟ้าเป็นธุรกิจมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2517 เป็นต้นมา โดยมีอาจารย์ธวัชและอาจารย์แสงจันทร์ เจียศิริพงษ์กุล เป็นผู้ดูแลกิจการอยู่ ทำให้สถานที่นี้ กลายเป็นแหล่งรวบรวมเห็ดหิ้งหรือเห็ดกระด้างสะสมไว้จำนวนมาก
จนกระทั่ง เมื่อ ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเห็ดอาวุโส ขององค์การค้าโลก แห่งสหประชาชาติ ได้ไปประชุมทางวิชาการเกี่ยวกับเห็ด ที่รัฐแมรีแลนด์ ใกล้กับศูนย์เก็บรวบรวมพันธุ์เห็ดจากทั่วโลก ที่เรียกว่า สถาบัน เอทีซีซี (ATCC = American Types Cultures Collection) ในช่วงนั้น ได้มีการพูดถึงการนำเอาเห็ดมารักษาโรคมะเร็งซึ่งก็ได้แก่ เห็ดตระกูลเห็ดหิ้งเป็นส่วนใหญ่ เช่น เห็ดหลินจือ เห็ดขอนหลากสี แต่มีเห็ดอีกชนิดหนึ่งที่สร้างความฮือฮาในที่ประชุมทางวิชาการ ที่ทางอเมริกาใช้ในการักษาโรคมะเร็งอย่างได้ผลในมะเร็งหลายชนิด ได้ดีกว่าเห็ดหิ้งทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งตับ เป็นเห็ดที่มาจากทางเอเชีย คือ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยทางญี่ปุ่นเรียกว่า เมชิมาตาเก๊ะ (Meshima-take) เกาหลีเรียก ซางฮวง(Sang Hwang) จีนเรียก ฉางอินหรือฉางฉิน(Sang-I or Sang-shin Lingchi หรือจ้าวหลินจือ) ซึ่งเห็ดชนิดนี้ มีจำหน่ายในร้านขายสมุนไพรจากตะวันออกหรือร้านยาจีนราคาแพงมาก โดยขายกันเป็นกรัมๆละ 100 ดอลลาร์หรือประมาณ 3,000 บาทขึ้นไป หากเทียบราคาเป็นกิโลกรัมเป็นเงินกว่า 3 ล้านบาท สูงกว่า เห็ดถั่งเช่าที่ว่าราคาแพงๆเสียอีก ซึ่งพบว่า เห็ดดังกล่าว เป็นเห็ดที่เกิดขึ้นในป่าเขตร้อนเช่น ประเทศไทย บ้านต้นไม้เนื้อแข็งบางชนิด ที่พบมากที่สุดก็คือ ไม้ตระกูล DIPTEROCARPACEAE เช่น ต้นแงะหรือต้นจิก Shorea obtusa Wall.ex Blume ต้นกระถินพิมานAcacia harmandiana (Pierre) Gagnep. ที่เกาหลีและญี่ปุ่นพบตามต้นหม่อน Morus alba L. เป็นเห็ดที่สังคมไทยให้ความสำคัญน้อยมาก ยกเว้น หมอพื้นบ้านทางภาคเหนือ และอิสานบางแห่งเท่านั้น ที่นำเอามาใช้เป็นยาในวงจำกัดมาก ส่วนใหญ่ มักจะนำเอาไปเป็นเชื้อเพลิงแทนฟืน เมื่อ ดร.อานนท์ กลับมาเมืองไทย ก็พบว่า จริงๆแล้ว เห็ดชนิดนี้ เป็นเห็ดที่มีอย่างชุกชุมในประเทศไทยที่น่าจะเป็นแหล่งที่อุดมที่สุดของโลก และก็มาสืบทราบว่า ด้วยความที่คนไทยยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับเห็ดชนิดนี้ จึงเป็นเหตุให้นักธุรกิจข้ามชาติ ได้มากว้านเก็บรวบรวมเห็ดจากป่าของประเทศไทยไปจนเกือบหมดแล้ว โดยทยอยส่งออกไปขายในต่างประเทศในรูปของ ผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ
ในช่วงต้นที่ ดร.อานนท์ ได้เปิดบริการรับปรึกษาเกี่ยวกับเห็ดผ่านทางเวปไซด์ www.anonbiotec.com ได้มีผู้ตั้งกระทู้ถามเรื่อง ประโยชน์ของเห็ดกระถินพิมาน และวิธีการนำมาใช้เป็นยา ซึ่ง ดร.อานนท์ ก็ได้ตอบคำถามตามหลักวิชาการไป และทำให้ทราบว่า บ้านเราเริ่มมีการศึกษาวิธีการเพาะเห็ดกระถินพิมานกันบ้างแล้ว พอดีเป็นช่วงที่งานพืชสวนโลกครั้งที่ 2 ที่จังหวัดเชียงใหม่จัดขึ้นเมื่อปลายปี 2554 โดยคณะกรรมการได้เชิญทางสถาบันอานนท์ไบโอเทคไปร่วมจัดแสดงเกี่ยวกับเห็ดเป็นยาในครั้งนี้ด้วย และก็ได้นำเอาตัวอย่างเห็ดไม้แงะ หรือเห็ดจิกหรือเห็ดกระถินพิมาน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีให้ยืมตัวอย่างจากคุณสุพัฒน์ สวัสดิ์นที ไปโชว์ตลอดทั้งงาน ซึ่งในงานดังกล่าวพบว่า คนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าที่ควร ในทางตรงกันข้าม นักท่องเที่ยวจากต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีน ไต้หวัน เกาหลีและญี่ปุ่น ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และจุดนี้เอง ที่ทำให้ทราบว่า เห็ดชนิดนี้ คุณสง่า เอื้อตระกูลได้เก็บรวบรวมไว้ทั้งที่บ้านที่เชียงใหม่และที่แพร่ไว้จำนวนมากเป็นพันๆดอก หรือคิดเป็นน้ำหนักเป็นจำนวนหลายตัน บางดอก คุณสง่าเล่าให้ฟังว่า ถึงขนาดใช้ช้างลากข้ามเขาข้ามห้วยมานานหลายสัปดาห์ เพราะมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก อาจจะใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ โดยดอกที่มีขนาดใหญ่บางดอก มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 160 ซม. น้ำหนักกว่า 300 กก. จากจุดนี้เอง ที่ทำให้คุณสง่า ตัดสินใจ นำเอาเห็ดไม้แงะหรือเห็ดจิกหรือเห็ดกระถินพิมาน ที่เก็บไว้เป็นมรดกตกทอดของครอบครัวเอื้อตระกูล ที่เก็บรวบรวมสะสมไว้นานติดต่อกันเป็นเวลากว่า 40 ปี ไปเปิดตัวที่งานสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 9 จัดโดยกระทรวงสาธารณสุข เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2555 พร้อมทั้งอนุญาตให้ ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล เป็นผู้นำไปเผยแพร่ตามสื่อต่างๆจนเป็นที่ฮือฮากันจนปัจจุบัน เป็นที่โจษจันกันเรียกเห็ดนี้ว่า เห็ดสามล้าน
ซึ่งหากจะย้อนไปถึงอดีตเกี่ยวกับเห็ดไม้แงะหรือเห็ดจิกหรือเห็ดกระถินพิมานนั้น เป็นที่รู้จักกันมาหลายพันปีแล้วในจีน และญี่ปุ่น มีบันทึกไว้ในพงศาวดารจีนตั้งแต่ปฐมพระมหากษัตริย์จีนพระองค์แรก ชื่อ จิ๋นซีฮ่องเต้ ผู้ทรงมีพระปรีชาสามารถในการรวบรวมอาณาจักรน้อยใหญ่มาเป็นประเทศจีนที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล เป็นกษัตริย์ที่มีอำนาจสูงสุดและสร้างผลงานที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก คือ กำแพงเมืองจีน พระองค์สามารถสั่งการได้ทุกอย่างที่อยากได้ ยกเว้นสิ่งเดียวเท่านั้น ที่พระองค์กังวลที่สุดก็คือ ความตายที่ทุกคนหนีไม่พ้น ดังนั้น พระองค์จึงได้พยายามหาทุกวิถีทางที่จะทำให้มีชีวิตอยู่ยืนนานเป็นอมตะตลอดการได้ จึงได้สั่งการให้บรรดาหมอจากทั่วสารทิศ ให้ค้นหาตำรับตำราและสุดยอดสมุนไพร มาถวาย ซึ่งก็ยังไม่เป็นที่พอพทัยของพระองค์ท่านได้ จึงได้สั่งการให้แม่ทัพใหญ่ที่ชื่อ ฉีฝู (Xú Fú) ให้นำทัพไปทางตะวันออก เพื่อไปหาสุดยอดสมุนไพรที่เป็นยาอายุวัฒนะทำให้ชีวิตอมตะได้ตามคำแนะนำของหมอหลวงประจำราชสำนัก ซึ่งฉีฝูได้นำทัพไปนานพอสมควรจึงกลับมามือเปล่า เพราะไม่สามารถหาสมุนไพรดังกล่าวได้ ด้วยความที่พระองค์ท่านมีพระราชอำนาจล้นฟ้า หากข้าราชบริพารใด ไม่สามารถปฏิบัติตามพระประสงค์ได้ มักจะถูกประหารชีวิตทันที ซึ่งฉีฝูก็ตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น แต่ก่อนที่จะถูกนำไปประหารชีวิตนั้น ฉีฝูได้ขออนุญาตชี้แจงว่า สุดยอดสมุนไพรที่ต้องการมีอยู่จริง ในสถานที่ที่ลี้ลับและมีการป้องกันอันหฤโหด บนยอดเขาเผิงไหล(น่าจะเป็นยอดเขาฟูจิในปัจจุบัน) อยู่กลางทะเลไกลโพ้น ดังนั้นกำลังที่นำไปครั้งนั้นมีน้อยเกินไป ส่วนใหญ่จะเป็นทหารแก่และอาวุธไม่ดีพอ จึงขอพระราชทานชีวิตเพื่อจะไปเอาสุดยอดสมุนไพรนี้ให้จงได้ หากมีกำลังเพียงพอและอาวุธที่ดี จิ๋นซีฮ่องเต้ จึงยอมลดโทษประหารแล้วจัดไพร่พลอันประกอบด้วยทหารหนุ่ม 5,000 คน เรือสำเภา 60 ลำ ที่น่าแปลกที่สุด คือ ฉีฝูได้นำเอาเด็กๆชายหญิงไปด้วยกว่า 3,000 คน ยกกองทัพไปแบบยิ่งใหญ่ มุ่งทัพไปยังเกาะตะวันออก และก็ได้เจอสุดยอดสมุนไพรดังกล่าว ก็คือ เห็ดจ้าวหลินจือ หรือภาษาญี่ปุ่นเรียก เมชิมาตาเก๊ะ และก็รู้ดีว่า แม้ว่าจะเจอสุดยอดสมุนไพรแล้ว หากนำไปถวายก็จะต้องเจอโทษประหารชีวิตอยู่ดี ดังสุภาษิตที่ว่า เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกษาฆ่าขุนพล ฉีฝูจึงตั้งรกรากอยู่ที่เกาะแห่งนี้ ก็คือ ประเทศญี่ปุ่นปัจจุบัน โดยการยกทัพไปครั้งนี้ ฉีฝูได้นำเอาตำรับตำราการทำการเกษตร ยาสมุนไพร การทอผ้าไหม ไปด้วย ทำให้ฉีฝูกลายเป็นเทพที่สำคัญที่คนญี่ปุ่นเคารพนับถือสืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน จึงไม่แปลกใจว่า ญี่ปุ่นเป็นผู้นำการวิจัยเรื่องเห็ดเป็นยา และเห็ดเมชิมาตาเก๊ะหรือเห็ดต้นแงะ กลายเป็นเห็ดพระเอกที่ใช้เป็นส่วนสำคัญในการผลิตยารักษาโรคมนุษย์ที่สำคัญ เช่นเดียวกันกับประเทศเกาหลีใต้ ทางรัฐบาลเกาหลีใต้ให้ความสำคัญในการศึกษาเห็ดชนิดนี้ในระดับชาติ และเป็นเห็ดชนิดเดียวเท่านั้น ที่ทางราชการอนุญาตให้ใช้เป็นยารักษาโรคเรื้อรังหลายชนิดแก่มนุษย์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และกลายเป็นสินค้าที่สำคัญในการส่งออก ทั้งในรูปของยารักษาโรคและส่วนประกอบที่สำคัญในส่วนผสมของเครื่องสำอางอีกด้วย
ส่วนการเพาะเลี้ยงนั้น ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล ก็สามารถทำการเพาะเลี้ยงได้แล้ว และการเลี้ยงเอาเส้นใยของมันนั้น ใช้เวลาเร็วมาก ทั้งการเลี้ยงในอาหารวุ้นและอาหารเหลว โดยใช้เวลาแค่เดือนเดียวเท่านั้น ซึ่งจะมีสรรพคุณทางยาสูงกว่า ของธรรมชาติเสียอีก การทำการเพาะเพื่อผลิตทั้งเส้นใย ดอกเห็ด และแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเห็ดต้นแงะหรือเห็ดกระถินพิมานนั้น สถาบันอานนท์ไบโอเทค เตรียมการที่จะทำเป็นแหล่งความรู้ในอุทยานเห็ดนานาชาติอานนท์เวิลด์ในอนาคต ที่บ้านเพนียด อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรีต่อไป
สาระที่ ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องเห็ดกระถินพิมานนั้น เพื่อเป็นการย้ำว่า เห็ดนี้ เคยมีอยู่ชุกชุมในประเทศไทย ทางอีสานและทางเหนือ โดยส่วนใหญ่มันจะขึ้นตามต้นเค็ง ต้นกระถินพิมาน แต่ก็มิได้ หมายความว่า เห็ดที่ขึ้นกับต้นไม้สองชนิดนี้ จะเป็นเห็ดกระถินพิมานทั้งหมด โดยปกติ เห็ดกระถินพิมานจะเจริญเติบโตช้ามาก ดอกใหญ่ขนาดฝ่ามือ อาจใช้เวลาในการเจริญเติบโตนานนับสิบปี หากดอกใหญ่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเป็นฟุตแล้วล่ะก็ อาจจะมีอายุนานนับร้อยปี ดังนั้น หากเป็นเห็ดที่โตไวๆ แค่ไม่กี่เดือนก็ดอกโตแล้ว ส่วนใหญ่เป็นเห็ดหิ้ง เห็ดกระด้าง ซึ่งจะอยู่ในตระกูลเห็ดหลินจือ Ganoderma spp. แต่ไม่ใช่เห็ดกระถินพิมานที่อยู่ในตระกูล Phellinus spp. อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่มันแข็งมาก ทานไม่ได้ เพราะมันแข็งเหมือนไม้ และนักวิชาการไทย ก็ไม่มีความรู้ว่ามันมีคุณสมบัติเป็นยา ดังนั้น คนไทยที่พบเห็นเห็ดกระถินพิมาน มักจะไม่สนใจ บางคนอาจจะเอามาทำเป็นเชื้อเพลิง แต่ต่างประเทศแล้ว เขาศึกษาเรื่องนี้กันเยอะ เขารู้ว่า เห็ดชนิดนี้ มีคุณสมบัติทางยาดีมาก ทำให้มีชาวต่างชาติได้มาจ้างชาวบ้าน เก็บเห็ดเหล่านี้จากธรรมชาติ แล้วลักลอบเอาไปขายในต่างประเทศ ซึ่งราคา ที่ ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล กล่าวนั้น เป็นราคาเปรียบเทียบที่บริษัทผลิตยาในอเมริกา รับซื้อขายกันมากว่าเกือบสิบปีแล้ว มันเป็นเรื่องของขบวนการค้าพวกนี้ คงไปยุ่งไปเกี่ยวเขาไม่ได้ เพราะเขาเป็นขบวนการที่ยิ่งใหญ่ เป็นขบวนการที่เขามีเงิน
ตรงนี้ต่างหาก ที่ ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล ต้องการจะปลุกจิตสำนึกให้แก่คนไทยทั้งชาติว่า เราจะให้ชาวต่างชาติ ขนเอาทรัพยากรธรรมชาติในประเทศเช่น เห็ดกระถินพิมาน ออกไปจากประเทศไทย เอาไปจดทะเบียน เอาไปขายในราคาแพงๆกันอีกต่อไปหรือ ทำไมผู้ที่ได้รับข่าวรับคราวเรื่องราคา ทั้งที่มันเป็นราคาของบริษัทที่ต่างประเทศ ถึงรีบร้อน ไปเก็บเอาของที่มีค่ายิ่งมาจากธรรมชาติ ทำไมไม่ช่วยรักษาเอาไว้ในธรรมชาติ เพราะมันเป็นของดี ของมีค่า ที่สักวัน คนไทยจะได้รู้ถึงคุณประโยชน์ของมัน อย่าลืมว่า เห็ดกระถินพิมาน ไม่เหมือนเห็ดทั่วๆไป มันเจริญเติบโตช้ามาก ดอกขนาดเท่าฝ่ามือ อายุอาจจะนานกว่า 20-30 ปี หากมันยังอยู่กับแหล่งเดิมของมัน มันเป็นของหายาก ในประเทศไทย ยังไม่มีใครซื้อใครขายกันเสียเท่าไร จึงขอวิงวอนต่อทุกฝ่าย ให้ช่วยกันรักษาและอนุรักษ์เห็ดกระถินพิมานเอาไว้ เพื่อเป็นการปกป้องและรักษาสมดุลตามธรรมชาติบนผืนแผ่นดินไทย
ตัวอย่างงานวิจัยเห็ดพิมาน
กิจกรรมของ Cytotoxic และ antitumor ของ polypore macrofungus, Phellinus rimosus (Berk) Pilat
Ajith TA 1 , Janardhanan KK
ข้อมูลผู้แต่ง
ศูนย์วิจัยมะเร็ง Amala, Amala Nagar, Kerala 680 553, ธ ฤสสุระ, อินเดีย
บทคัดย่อ
กิจกรรมของ Cytotoxic และ antitumor ของ ethyl acetate, methanol และสารสกัดจากน้ำของไม้ polypore macrofungus, polyphore macrofungus, Phellinus rimosus (Berk) Pilat มีการศึกษา สารสกัดจากเอทิลอะซิเตทและเมทานอลแสดงให้เห็นว่ามีฤทธิ์ในการต่อต้านพิษของเซลล์มะเร็งต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง (DLA) ของดาลตันและเซลล์ของน้ำในช่องท้องของ Ehrlich ของ Ehrlich สารสกัดด้วยน้ำไม่แสดงความเป็นพิษต่อเซลล์ที่ทดสอบ สารสกัดทั้งสามชนิดมีประสิทธิภาพสูงในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกแข็งที่เกิดจากเซลล์ DLA ในหนู อย่างไรก็ตามฤทธิ์ต้านออกซิเดชันของสารสกัดเอทิลอะซิเตตสูงกว่าของเมทานอลและสารสกัดด้วยน้ำ สารสกัดเอทิลอะซิเตทยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดเนื้องอกในช่องท้องของ EAC ที่เกิดจากน้ำในช่องท้องในหนู ฤทธิ์ต้านมะเร็งของสารสกัดทั้งสามชนิดต่อเนื้องอกชนิดแข็งขนาด 50 มก. / กก. (po) เทียบได้กับยาอ้างอิงมาตรฐานที่ใช้ในทางการแพทย์ซิสพลาติน (4 มก. / กก., IP) การรักษาเบื้องต้นของสารสกัดยังมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกที่เกิดจากเส้นเซลล์ DLA ผลการทดลองพบว่าสารสกัดเอทิลอะซิเตทของ P. rimosus มีฤทธิ์ต้านมะเร็งอย่างมีนัยสำคัญ ผลการวิจัยชี้ให้เห็นถึงศักยภาพการใช้ประโยชน์ของเห็ดชนิดนี้ในฐานะตัวต้าน
ลิขสิทธิ์ 2002 Elsevier Science Ireland Ltd.
สารสกัดจากเอทิลอะซิเตทของ P. rimosus มีฤทธิ์ยับยั้งการเกิดพิษต่อไต
Format: AbstractSend toJ Exp Clin Cancer Res. 2002 Jun;21(2):213-7.
Amelioration of cisplatin induced nephrotoxicity in mice by ethyl acetate extract of a polypore fungus, Phellinus rimosus.
Ajith TA1, Jose N, Janardhanan KK.
Author information
Abstract
Pretreatment of ethyl acetate extract of Phellinus rimosus (Berk) Pilat protected cisplatin induced nephrotoxicity in mice. Single dose of the extract (25 and 50 mg/kg body weight) decreased cisplatin induced serum creatinine and urea levels. The cisplatin depleted renal antioxidant defence system, such as activity of superoxide dismutase (SOD), catalase (CAT), glutathione peroxidase (GPX) and concentration of reduced glutathione (GSH), were restored by the treatment of the extract. The enhanced renal antioxidant defence system prevented cisplatin induced tissue lipid peroxidation. The experimental results suggest that ethyl acetate extract of P. rimosus protected cisplatin induced nephrotoxicity, possibly by enhancing renal antioxidant status. The extract did not interfere with the antitumor efficacy of cisplatin.
PMID: 12148580
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/21784121
ต้านอนุมูลอิสระ ผลการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่ากลไกต้านเนื้องอกที่เป็นไปได้ของ P. rimosus
Antimutagenic effect of Phellinus rimosus (Berk) Pilat against chemical induced mutations of histidine dependent Salmonella typhimurium strains.
Ajith TA1, Janardhanan KK.
Author information
Abstract
Mutations are one of the important factors contributing to oncogenesis. Somatic mutations have been detected in oncogenes and tumor suppressor genes in various types of cancers. In vitro antimutagenic activity of ethyl acetate extract of macro fungus, Phellinus rimosus was evaluated by Ames' mutagenicity assay. The effect was evaluated against the direct acting mutagens (sodium azide, N-methyl-N'-nitro-N-nitrosoguanidine, doxorubicin and 4-nitro-o-phenylenediamine) and mutagen needing activation (2-acetyl aminofluorine, and benzo[a]pyrene). The extract was significantly (p<0.05) and dose dependently effective against direct acting mutagens and mutagen needing activation. Among the antimutagenic activity against directly acting mutagens, effect was found to be highest against doxorubicin-induced mutation. The antimutagenic effect of the extract against indirect acting mutagen in the presence of mammalian metabolic activation system was also found to be significant (p<0.01). The background bacterial growth and number of revertant colonies in the extract alone treated plate with or with out metabolic activator was almost same as that of spontaneous revertants. This indicated the non-toxic nature of the extract. The effect was partially ascribed to the antioxidant activity. The results of the study suggest the possible antitumor mechanisms of P. rimosus.
Copyright © 2011 Elsevier Ltd. All rights reserved.
PMID: 21784121 DOI: 10.1016/j.fct.2011.07.022
[Indexed for MEDLINE]
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/22070052เรื่องมะเร็งผิวหนัง
Phellinus rimosus (Berk.) pilat attenuates 7,12-dimethylbenz[a] anthracene induced and croton oil promoted skin papilloma formation in mice.
Ajith TA1, Janardhanan KK.
Author information
Abstract
The roles of 7,12-dimethylbenz[a]anthracene (DMBA), a polycyclic aromatic hydrocarbon (PAH), and 12-O-tetradecanoylphorbol-13-acetate (TPA) a skin tumor promoter present in croton oil, are clearly implicated in the formation of skin papilloma. The effect of ethyl acetate extract of Phellinus rimosus, a polypore macro fungus, against croton oil-induced skin inflammation, lipid peroxidation and tumor promotion was studied. The antiinflammatory and lipid peroxidation inhibiting activities were determined by topical application of extract of P. rimosus (10 and 20 mg) prior to the application of 0.1 ml of 50% croton oil in acetone. The tumor promotion inhibiting effect of P. rimosus was evaluated against DMBA-initiated, croton oil promoted two-stage carcinogenesis model in mouse skin. The results showed that topical application of the extract (10 and 20 mg) significantly (p < 0.01) and dose dependently attenuate the inflammatory edema as well as lipid peroxidation induced by croton oil. Similarly, topical application of extract (1 and 5 mg) effectively ameliorated the croton oil promoted skin papilloma formation. The results of this study concluded that ethyl acetate extract of P. rimosus showed antitumor activity against DMBA initiated, croton oil promoted skin papilloma formation which can be partially ascribed to the antiperoxidative and anti-inflammatory effects of the extract.
https://inis.iaea.org/search/search.aspx?orig_q=RN:36053453
ทดลองในตับและสมอง
[en] Exposure to radiation or 2.2' Azobis(2-amidopropane) dihydrochloride (AAPH) induces generation of reactive oxygen species (ROS) especially hydroxyl radical (.OH) and peroxyl radical (ROO.), which are capable of inducing lipid peroxidation. Our earlier studies have demonstrated that extracts of the medicinal and edible mushrooms Ganoderma lucidum, Pleurotus florida, Pleurotus sajor-caju and Phellinus rimosus possessed significant antioxidant activity, measured as radical scavenging. In the present study, we examined the protective effect of these mushroom extracts against radiation- and AAPH-induced lipid peroxidation using rat liver and brain mitochondria as model systems. The results obtained showed that the investigated mushroom extracts significantly inhibited the formation of lipid hydroperoxide and thiobarbituric acid reactive substances, indicating membrane protective effects. The finding suggests the profound protective effect of the extracts of the fruiting bodies of G. lucidum, P. florida, P. sajor-caju and P. rimosus against lipid peroxidation by two major forms of ROS capable of inducing this type of damage in a major organelle, the mitochondria from both rat liver and brain. This observation can possibly explain the health benefits of these mushrooms. (author)
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/12127241
การศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต่อต้านตับของเชื้อ Phrofelus rimosus
Antioxidant and antihepatotoxic activities of Phellinus rimosus (Berk) Pilat.
Ajith TA1, Janardhanan KK.
Author information
Abstract
The antioxidant and antihepatotoxic activities of a wood inhabiting macrofungus, Phellinus rimosus were studied. The superoxide anion scavenging, Fe(2+)-ascorbate induced lipid peroxidation inhibiting, hydroxyl radical scavenging and nitric oxide scavenging activities of the ethyl acetate extract were determined. The results indicated that ethyl acetate extract of P. rimosus exhibited significant in vitro antioxidant activity. The ethyl acetate extract of P. rimosus also showed potent antihepatotoxic activity against carbontetrachloride-induced acute toxicity in rat liver. The amelioration of liver toxicity by the ethyl acetate extract was evident from its significant effect on the levels of serum glutamate pyruvate transaminase (SGPT), serum glutamate oxaloacetate transaminase (SGOT) and serum alkaline phosphatase (ALP). The results suggest that hepatoprotective effect of P. rimosus is possibly related to the free radical scavenging activity.
PMID: 12127241 DOI: 10.1016/s0378-8741(02)00042-9
[Indexed for MEDLINE]
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/16259127
Antimicrobial, cytotoxic and antioxidant activity of selected basidiomycetes from Yemen.
Al-Fatimi M1, Wurster M, Kreisel H, Lindequist U.
Author information
Abstract
Dichloromethane, methanol and aqueous extracts of 23 selected Basidiomycetes species fruiting bodies collected in Yemen were screened in vitro for their antibacterial activities against three Gram-positive bacteria (Staphyloccocus aureus, Bacillus subtilis, Micrococcus flavus), two Gram-negative bacteria (Escherichia coli, Pseudomonas aeruginosa) and against one yeast fungus (Candida maltosa), as well as for their cytotoxic and antioxidant activity. The highest antibacterial activity was shown by extracts from Agaricus sp. (Type 1), Coriolopsis caperata, Ganoderma colossus, Ganoderma resinaceum, Phellorinia herculea and Tulostoma obesum. Strong antioxidative effects employing the DPPH assay were exhibited by methanol extracts from Ganoderma resinaceum, Inonotus ochroporus, Phellinus rimosus and Phellorinia herculea. The results provide evidence that some of the studied fungi might be potential sources for new biologically active agents.
PMID: 16259127
[Indexed for MEDLINE]
เหนื่อยละ เอาแค่นี้ก่อน
เอกสารอ้างอิง
เห็ดกระถินพิมาน
1. ราชบัณฑิตยสถาน. เห็ดกินได้และเห็ดมีพิษในประเทศไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพ:
2539. 170 หน้า.
2. Ayala-Zavala JF, Silva-Espinoza BA, Cruz-Valenzuela MR, Villegas-Ochoa MA,
Esqueda M, González-Aguilar GA, Calderón-López Y. Antioxidant and antifungal
potential of methanol extracts of Phellinus spp. from Sonora, Mexico. Rev Iberoam
Micol 2012;29(3):132-8.
3. Ajith TA, Janardhanan KK. Cytotoxic and antitumor activities of a polypore
macrofungus, Phellinus rimosus (Berk) Pilat. J Ethnopharmacol 2003;84:157-62.
4. Sheena N, Ajith TA, Mathew AT, Janardhanan KK. Antibacterial activity of three
macrofungi, Ganoderma lucidum, Navesporus floccosa and Phellinus rimosus occurring
in South India. Pharm Biol 2003;41(8):564-7.
5. Wang Z, Yang S, Li J. Manufacture of anticancer proteoglycan by submerged
fermentation of Phellinus rimosus. Patent CN1552888A.
6. Janardhanan KK, Meera CR, Nitha B, Vishwakarma RA. Anti-inflammatory and free
radical scavenging activities of polysaccharide-protein complex isolated from Phellinus
rimosus (Berk.) Pilát (Aphyllophoromycetideae) Int J Medicinal Mushroom 2009;11(4):
365-73.
7. Joseph J, Smina TPP, Janardhanan KK. Polysaccharide protein complex isolated from
mushroom Phellinus rimosus (Berk.) Pilat alleviates radiation-induced toxicity in mice.
Cancer Biother Radio 2011;26(3):299-308.
8. Joseph J, Panicker SN, Janardhanan KK. Protective effect of polysaccharide-protein
complex from a polypore mushroom, Phellinus rimosus against radiation-induced
oxidative stress. Redox Rep 2012;17(1):22-7.
9. Meera CR, Smina TP, Nitha B, Mathew J, Janardhanan KK. Antiarthritic activity of a
polysaccharide-protein complex isolated from Phellinus rimosus (Berk.) Pilát
(Aphyllophoromycetideae) in freund's complete adjuvant-induced arthritic rats. Int J
Medicinal Mushroom 2009;11(1):21-8.
10. Zang Y. Studies on the Chemical Constitunents of Phellinus Rimosus and Lycopodium
Japonium. [updated 2012 Feb 06; cited 2012 Sep 30]. Available from
http://globethesis.com/?t=2154330335464889
11. Ajith TA, Janardhanan KK. Chemopreventive activity of a macrofungus Phellinus
rimosus against N-nitrosodiethylamine induced hepatocellular carcinoma in rat. J Exp
Ther Oncol 2006;5(4):309-21.
12. Al-Fatimi M, Wurster M, Kreisel H, Lindequist U. Antimicrobial, cytotoxic and antioxidant
activity of selected basidiomycetes from Yemen. Pharmazie 2005;60(10):776-80.
13. Ajith TA, Janardhanan KK. Antioxidant and antihepatotoxic activities of Phellinus
rimosus (Berk) Pilat. J Ethnopharmacol 2002;81:387-91.
14. Lakshmi B, Tilak JC, Adhikari S, Devasagayam TPA, Janardhanan KK. Inhibition of lipid
peroxidation induced by -radiation and AAPH in rat liver and brain mitochondria by
mushrooms. Curr Sci 2005;88(3):484-488.
15. Ajith TA, Janardhanan KK. Phellinus rimosus (Berk.) pilat attenuates 7,12-
dimethylbenz[a] anthracene induced and croton oil promoted skin papilloma formation in
mice. J Exp Ther Oncol 2011;9(3):207-15.
16. Ajith TA, Janardhanan KK. Antimutagenic effect of Phellinus rimosus (Berk) Pilat against
chemical induced mutations of histidine dependent Salmonella typhimurium strains.
Food Chem Toxicol 2011;49:2676-80.
17. Ajith TA, Jose N, Janardhanan KK. Amelioration of cisplatin induced nephrotoxicity in
mice by ethyl acetate extract of a polypore fungus, Phellinus rimosus. J Exp Clin
Cancer Res 2002;21(2):213-7.
การศึกษาฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียของสารสกัดเมทานอลของโพลีพอร์ macrofungi Phellinus rimosus, Ganoderma lucidum และ Navesporus floccosa ประเมินกิจกรรมโดยวิธีการแพร่กระจายของรูจานและวิธีการเจือจางแผ่นไมโครทีทรีโดยใช้ Escherichia coli, Pseudomonas aeuroginosa, Staphylococcus aureus, Salmonella typhimurium และ Bacillus subtilis สารสกัดเมทานอลของ P. rimosus และ N. floccosa แสดงฤทธิ์ต่อต้านเชื้อทุกสายพันธุ์ที่ความเข้มข้น 800 µg / well และ 1 mg / well ตามลำดับ สารสกัดเมทานอลของ G. lucidum แสดงฤทธิ์ต้าน E. coli, S. typhimurium และ B. subtilis ที่ระดับความเข้มข้น 1 mg / well ความเข้มข้นของการยับยั้งขั้นต่ำ (MIC) ของ P. rimosus และ N. flocossa พบว่ามีค่า 500 µg / well และ 1 mg / well ตามลำดับ MIC ของ G. lucidum นั้นยังพบว่า 1 mg / well การวิเคราะห์ทางเคมีของสารสกัดเมทานอลของเชื้อราเหล่านี้บ่งชี้ว่ามีโพลีฟีนฟลาโวนอยด์ควิโนนและเทอเพน
............
Phellinusrimosusare คัดเลือกด้วยฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ของอินเดีย [25] ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและยาต้านจุลชีพที่ประกอบด้วย macrofungiG lucidum ซึ่งไม่เพียง แต่มี 120 สายพันธุ์ที่แตกต่างกัน แต่ยัง polysaccharides, โปรตีนและสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพอื่น ๆ สเปกตรัมที่ตรวจพบผลกระทบการแพทย์ของเห็ดเป็นวงกว้างมากใน Staphylococcus aureus ทน Multidrug ...
... Bacillus subtilis, Staphylococcus aureus, Micrococcus luteus.Klebsiella ปอดบวม [10], [23], [25] , [36] 7. ...
... [23] การศึกษาเพิ่มเติมระบุว่าสารเคมีบำบัดและสารสกัด G. lucidum ที่มี (ampicillin, เซฟาโซลิน, oxytetracycline, และ chloramphenicol) ส่งผลให้เกิดการทำงานร่วมกันหรือการเป็นปรปักษ์กับเซฟิลลินกับ Bacillus subtilisand Klebsiellaoxytoca [25] [36] ...
...........
ศักยภาพของแบคทีเรียต่อแบคทีเรีย 32 สายพันธุ์จาก 18 สกุลได้รับการตรวจพบใน 316 สายพันธุ์จาก 150 สกุลของ Basidiomycetes และ Ascomycetes [28] การตรวจสอบกิจกรรมการใช้ยาปฏิชีวนะของเห็ดอย่างมีนัยสำคัญบ่งชี้ถึงความเข้มข้นที่แตกต่างกัน: อ่อนปานกลางรุนแรงหรือขาดหายไปทั้งหมด [4, 6, 8, 9, 15, 21, 29, 30, 32, 35, 37, 43] การศึกษาส่วนใหญ่ได้ดำเนินการในร่างกายของผล [6, 9, 21, 29, 30, 32, 35], น้อยกว่า - ในเส้นใย [8, 15, 25, 26, 37, 39, 42] และ / หรือวัฒนธรรม ของเหลว [3, 26, 34, 42] ของ Macromycetes ...
... การตรวจสอบกิจกรรมของยาปฏิชีวนะในเห็ดอย่างมีนัยสำคัญบ่งชี้ถึงความเข้มข้นที่แตกต่างกัน: อ่อนปานกลางรุนแรงหรือขาดหายไปทั้งหมด [4, 6, 8, 9, 15, 21, 29, 30, 32, 35, 37, 43 ] การศึกษาส่วนใหญ่ดำเนินการโดยหน่วยงานที่ให้ผล [6, 9, 21, 29, 30, 32, 35], ไมซีลีเนียมที่น้อยลง [8, 15, 25, 26, 37, 39, 42] และ / หรือของเหลวเพาะเลี้ยง [3, 26, 34, 42] ของ Macromycetes สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือการศึกษาที่ไม่เพียง แต่จะประเมิน แต่ยังเปรียบเทียบศักยภาพการต้านเชื้อแบคทีเรียของเห็ดในรูปแบบต่าง ๆ ของพืชและผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการเพาะปลูกของพวกเขา (ร่างผล, เห็ดรา, เห็ดหลินจือ, วิถีชีวิต) [8, 17, 20, 26, 41 , 42]. ...
...
.. จำนวนเห็ดรวม Phellinus เป็นที่รู้กันว่ามีฤทธิ์ต้านจุลชีพ [51] Phellinus rimosus และ P. linteus มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรค [52] [53] P. torulosus ยับยั้งการแพร่กระจายของกรัม (+) และกรัม (-) แบคทีเรียยีสต์ราเส้นใยและ actinomycetes [54] ...
... สารสกัดจากเมทานอลสารต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ [88] สารสกัดจากเอทิลอะซิเตทสารต้านอนุมูลอิสระและตับโตทรัคทีฟ [35] สารสกัดเมทานอลต้านเชื้อแบคทีเรีย [52] สารสกัดจากเมทานอลต้านเชื้อราและสารต้านอนุมูลอิสระ [61] P. sp. สารสกัดหยาบต้านจุลชีพ [114] P. sublinteus Hymenophore Sesquiterpenes ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา [60] Methanol สารสกัดจากสารต้านอนุมูลอิสระ [113] P. swieteniae Hymenophore เอทิลอะซิเตทและสารสกัดเมทานอล [58] คลอโรฟอร์ม, เอทิลอะซิเตตและ อะซิโตน, คลอโรฟอร์ม, เอทานอลและเอทิลอะซิเตตยาต้านจุลชีพ [54] น้ำ, เอทานอล (50%, 80%, บริสุทธิ์) และสารสกัดจากสารต้านอนุมูลอิสระเอทิลอะซีเตท [86] P. tremulea P. trivalis และ P. tuberculosus ...
...............
232049510_Antibacterial_Activity_of_Three_Macrofungi_Ganoderma_lucidum_Navesporus_floccosa_and_Phellinus_rimosus_Occurring_in_South_India
basidiocarps ของเห็ดนี้มีรายงานว่าจะใช้โดยบางเผ่าใน Kerala (อินเดีย) เพื่อรักษาคางทูม ( Ganesh, 1988, p.45)
Search Amazon
สรรพคุณทางยา
คุณสมบัติของตับ
การให้สารสกัดเอทิลอะซิเตทของ P. rimosus กับหนูช่วยปกป้องตับของพวกเขาจากความเสียหายที่เกิดจากคาร์บอนเตตราคลอไรด์ สายพันธุ์ออกซิเจนปฏิกิริยา (ROS) มีส่วนร่วมในพยาธิสรีรวิทยาของโรคในมนุษย์จำนวนมากรวมถึงพิษต่อตับจากคาร์บอนเตตราคลอไรด์ หนูถูกฉีดด้วยปริมาณคาร์บอนเตตราคลอไรด์ซึ่งจะเป็นพิษต่อตับ (น้ำหนักตัว 1.5 มล. / กก.) อย่างไรก็ตามการให้ยารับประทาน (พวกเขาลองทั้งน้ำหนัก 25 และ 50 มก. / กก.) ของสารสกัดจากเห็ดก่อนหน้านี้จะลดกิจกรรมของเอนไซม์บางตัวที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายต่อตับ นอกจากนี้ระดับของสารต้านอนุมูลอิสระ (เช่น superoxide dismutase, catalase, กลูตาไธโอนเปอร์ออกซิเดสและกลูตาไธโอนที่ลดลง) สูงกว่าในตับที่ได้รับการป้องกันด้วยสารสกัดจากเห็ด ดังนั้นสารสกัดจะคืนสถานะต้านอนุมูลอิสระ ( Ajith et al ., 2006a )
ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
Phellinus rimosus เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ การศึกษาหนึ่งเปรียบเทียบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของเห็ดสมุนไพรต่างๆ ( Pleurotus florida , Pleurotus sajor-caju และ Ganoderma lucidum ) รวมถึง P. rimosus จากการใช้การทดสอบที่หลากหลายเพื่อวัดพลังงานของสารต้านอนุมูลอิสระพบว่าสารสกัดเอทิลอะซิเตทของ P. rimosus มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพที่สุดในเห็ดสมุนไพรที่จดทะเบียน . สำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับรายละเอียดการทดสอบที่ใช้มีดังนี้:
DPPH (1,1-diphenyl 2-picryl hydrazyl) assay
ABTS (2,2-azobis-3-ethylbenzthiazoline-6-sulfonic acid) การทดสอบสเปกโทรโฟโตเมทริก
FRAP (ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระลดเฟอริก)
ORAC (ความสามารถในการดูดซับอนุมูลออกซิเจน)
ในทำนองเดียวกันสารสกัดยังได้รับการแสดงเพื่อปกป้องและป้องกันการเกิด lipid peroxidation ในเยื่อหุ้มไมโตคอนเดรียจากตับหนูและสมองหนู ( Lakshmi et al ., 2005 )
กิจกรรมต้าน
การทดลองแสดงให้เห็นว่า P. rimosus มีฤทธิ์ต้านมะเร็งอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งสารสกัดเอทิลอะซิเตทและเมทานอล (แต่ไม่ใช่น้ำ) ของเชื้อรานี้มีความสามารถในการฆ่าเซลล์มะเร็งจากเส้นเช่นน้ำในช่องท้องต่อมน้ำเหลืองของดาลตันและมะเร็งในช่องท้องของ Ehrlich แม้ว่าสารสกัดทั้งสามชนิดนี้จะยับยั้งการเติบโตของเนื้องอกที่เป็นของแข็งในเซลล์ DLA ได้ในระดับหนึ่ง แต่ ethyl acetate acetate นั้นมีฤทธิ์ต้านมะเร็งสูงสุด ตามที่ผู้เขียน, ประสิทธิภาพการต่อต้านเนื้องอกของสารสกัดทั้งสามในขนาด 50 มก. / กก. เทียบได้กับ cisplatin ยาต้านมะเร็ง (ที่ 4 มก. / กก.) ( Ajith และ Janardhanan 2003 )
ต้านเชื้อแบคทีเรีย
การศึกษาฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียของสารสกัดเมทานอลของ Phellinus rimosus ได้รับการประเมินโดยวิธีการแพร่กระจายแผ่นหลุมและวิธีการเจือจางแผ่น microtitre โดยใช้ Escherichia coli , Pseudomonas aeuroginosa , Staphylococcus aureus , Salmonella typhimurium และ Bacillus subtilis สารสกัดเมทานอลของ P. rimosus แสดงฤทธิ์กับทุกสายพันธุ์ที่ความเข้มข้น 800 µg / หลุม ความเข้มข้นของการยับยั้งขั้นต่ำของ P. rimosus นั้นอยู่ที่ 500 µg / well การวิเคราะห์ทางเคมีของสารสกัดเมทานอลระบุว่ามีโพลีฟีนอลฟลาโวนอยด์ควิโนนและเทอร์เพน ( Sheena et al ., 2003 )
https://healing-mushrooms.net/archives/phellinus-rimosus-berk-pilat.html
............
Phellinusrimosusare คัดเลือกด้วยฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ของอินเดีย [25] ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและยาต้านจุลชีพที่ประกอบด้วย macrofungiG lucidum ซึ่งไม่เพียง แต่มี 120 สายพันธุ์ที่แตกต่างกัน แต่ยัง polysaccharides, โปรตีนและสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพอื่น ๆ สเปกตรัมที่ตรวจพบผลกระทบการแพทย์ของเห็ดเป็นวงกว้างมากใน Staphylococcus aureus ทน Multidrug ...
... Bacillus subtilis, Staphylococcus aureus, Micrococcus luteus.Klebsiella ปอดบวม [10], [23], [25] , [36] 7. ...
... [23] การศึกษาเพิ่มเติมระบุว่าสารเคมีบำบัดและสารสกัด G. lucidum ที่มี (ampicillin, เซฟาโซลิน, oxytetracycline, และ chloramphenicol) ส่งผลให้เกิดการทำงานร่วมกันหรือการเป็นปรปักษ์กับเซฟิลลินกับ Bacillus subtilisand Klebsiellaoxytoca [25] [36] ...
...........
ศักยภาพของแบคทีเรียต่อแบคทีเรีย 32 สายพันธุ์จาก 18 สกุลได้รับการตรวจพบใน 316 สายพันธุ์จาก 150 สกุลของ Basidiomycetes และ Ascomycetes [28] การตรวจสอบกิจกรรมการใช้ยาปฏิชีวนะของเห็ดอย่างมีนัยสำคัญบ่งชี้ถึงความเข้มข้นที่แตกต่างกัน: อ่อนปานกลางรุนแรงหรือขาดหายไปทั้งหมด [4, 6, 8, 9, 15, 21, 29, 30, 32, 35, 37, 43] การศึกษาส่วนใหญ่ได้ดำเนินการในร่างกายของผล [6, 9, 21, 29, 30, 32, 35], น้อยกว่า - ในเส้นใย [8, 15, 25, 26, 37, 39, 42] และ / หรือวัฒนธรรม ของเหลว [3, 26, 34, 42] ของ Macromycetes ...
... การตรวจสอบกิจกรรมของยาปฏิชีวนะในเห็ดอย่างมีนัยสำคัญบ่งชี้ถึงความเข้มข้นที่แตกต่างกัน: อ่อนปานกลางรุนแรงหรือขาดหายไปทั้งหมด [4, 6, 8, 9, 15, 21, 29, 30, 32, 35, 37, 43 ] การศึกษาส่วนใหญ่ดำเนินการโดยหน่วยงานที่ให้ผล [6, 9, 21, 29, 30, 32, 35], ไมซีลีเนียมที่น้อยลง [8, 15, 25, 26, 37, 39, 42] และ / หรือของเหลวเพาะเลี้ยง [3, 26, 34, 42] ของ Macromycetes สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือการศึกษาที่ไม่เพียง แต่จะประเมิน แต่ยังเปรียบเทียบศักยภาพการต้านเชื้อแบคทีเรียของเห็ดในรูปแบบต่าง ๆ ของพืชและผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการเพาะปลูกของพวกเขา (ร่างผล, เห็ดรา, เห็ดหลินจือ, วิถีชีวิต) [8, 17, 20, 26, 41 , 42]. ...
...
.. จำนวนเห็ดรวม Phellinus เป็นที่รู้กันว่ามีฤทธิ์ต้านจุลชีพ [51] Phellinus rimosus และ P. linteus มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรค [52] [53] P. torulosus ยับยั้งการแพร่กระจายของกรัม (+) และกรัม (-) แบคทีเรียยีสต์ราเส้นใยและ actinomycetes [54] ...
... สารสกัดจากเมทานอลสารต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ [88] สารสกัดจากเอทิลอะซิเตทสารต้านอนุมูลอิสระและตับโตทรัคทีฟ [35] สารสกัดเมทานอลต้านเชื้อแบคทีเรีย [52] สารสกัดจากเมทานอลต้านเชื้อราและสารต้านอนุมูลอิสระ [61] P. sp. สารสกัดหยาบต้านจุลชีพ [114] P. sublinteus Hymenophore Sesquiterpenes ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา [60] Methanol สารสกัดจากสารต้านอนุมูลอิสระ [113] P. swieteniae Hymenophore เอทิลอะซิเตทและสารสกัดเมทานอล [58] คลอโรฟอร์ม, เอทิลอะซิเตตและ อะซิโตน, คลอโรฟอร์ม, เอทานอลและเอทิลอะซิเตตยาต้านจุลชีพ [54] น้ำ, เอทานอล (50%, 80%, บริสุทธิ์) และสารสกัดจากสารต้านอนุมูลอิสระเอทิลอะซีเตท [86] P. tremulea P. trivalis และ P. tuberculosus ...
...............
232049510_Antibacterial_Activity_of_Three_Macrofungi_Ganoderma_lucidum_Navesporus_floccosa_and_Phellinus_rimosus_Occurring_in_South_India
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น