เห็ดที่เกิดตามต้นแงะ(ภาษาเหนือ) ต้นจิกหรือต้นเค็ง(ภาษาอิสาน) ต้นเต็ง(ภาษากลาง) เห็ดที่เกิดขึ้นตามต้นดังกล่าว ก็จะเรียกชื่อเห็ดตามนั้น เช่น ทางภาคเหนือ เรียกเห็ดไม้แงะ ทางอิสานเรียกเห็ดจิกหรือเห็ดเค็ง แต่หากขึ้นตามต้นกระถินพิมาน ก็จะเรียกว่า เห็ดกระถินพิมาน เห็ดชนิดนี้แข็งมาก ศัตรูประเภทมอดเข้าไปทำลายได้ยาก เห็ดพวกนี้จะเก็บไว้ได้นานหลายๆปี
เมื่อ ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเห็ดอาวุโส ขององค์การค้าโลก แห่งสหประชาชาติ ได้ไปประชุมทางวิชาการเกี่ยวกับเห็ด ที่รัฐแมรีแลนด์ ใกล้กับศูนย์เก็บรวบรวมพันธุ์เห็ดจากทั่วโลก ที่เรียกว่า สถาบัน เอทีซีซี (ATCC = American Types Cultures Collection) ในช่วงนั้น ได้มีการพูดถึงการนำเอาเห็ดมารักษาโรคมะเร็งซึ่งก็ได้แก่ เห็ดตระกูลเห็ดหิ้งเป็นส่วนใหญ่ เช่น เห็ดหลินจือ เห็ดขอนหลากสี แต่มีเห็ดอีกชนิดหนึ่งที่สร้างความฮือฮาในที่ประชุมทางวิชาการ ที่ทางอเมริกาใช้ในการักษาโรคมะเร็งอย่างได้ผลในมะเร็งหลายชนิด ได้ดีกว่าเห็ดหิ้งทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งตับ เป็นเห็ดที่มาจากทางเอเชีย คือ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยทางญี่ปุ่นเรียกว่า เมชิมาตาเก๊ะ (Meshima-take) เกาหลีเรียก ซางฮวง(Sang Hwang) จีนเรียก ฉางอินหรือฉางฉิน(Sang-I or Sang-shin Lingchi หรือจ้าวหลินจือ) ซึ่งเห็ดชนิดนี้ มีจำหน่ายในร้านขายสมุนไพรจากตะวันออกหรือร้านยาจีนราคาแพงมาก โดยขายกันเป็นกรัมๆละ 100 ดอลลาร์หรือประมาณ 3,000 บาทขึ้นไป หากเทียบราคาเป็นกิโลกรัมเป็นเงินกว่า 3 ล้านบาท สูงกว่า เห็ดถั่งเช่าที่ว่าราคาแพงๆเสียอีก ซึ่งพบว่า เห็ดดังกล่าว เป็นเห็ดที่เกิดขึ้นในป่าเขตร้อนเช่น ประเทศไทย บ้านต้นไม้เนื้อแข็งบางชนิด ที่พบมากที่สุดก็คือ ไม้ตระกูล DIPTEROCARPACEAE เช่น ต้นแงะหรือต้นจิก Shorea obtusa Wall.ex Blume ต้นกระถินพิมานAcacia harmandiana (Pierre) Gagnep. ที่เกาหลีและญี่ปุ่นพบตามต้นหม่อน Morus alba L. เป็นเห็ดที่สังคมไทยให้ความสำคัญน้อยมาก ยกเว้น หมอพื้นบ้านทางภาคเหนือ และอิสานบางแห่งเท่านั้น ที่นำเอามาใช้เป็นยาในวงจำกัดมาก ส่วนใหญ่ มักจะนำเอาไปเป็นเชื้อเพลิงแทนฟืน เมื่อ ดร.อานนท์ กลับมาเมืองไทย ก็พบว่า จริงๆแล้ว เห็ดชนิดนี้ เป็นเห็ดที่มีอย่างชุกชุมในประเทศไทยที่น่าจะเป็นแหล่งที่อุดมที่สุดของโลก และก็มาสืบทราบว่า ด้วยความที่คนไทยยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับเห็ดชนิดนี้ จึงเป็นเหตุให้นักธุรกิจข้ามชาติ ได้มากว้านเก็บรวบรวมเห็ดจากป่าของประเทศไทยไปจนเกือบหมดแล้ว โดยทยอยส่งออกไปขายในต่างประเทศในรูปของ ผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ
ซึ่งหากจะย้อนไปถึงอดีตเกี่ยวกับเห็ดไม้แงะหรือเห็ดจิกหรือเห็ดกระถินพิมานนั้น เป็นที่รู้จักกันมาหลายพันปีแล้วในจีน และญี่ปุ่น มีบันทึกไว้ในพงศาวดารจีนตั้งแต่ปฐมพระมหากษัตริย์จีนพระองค์แรก ชื่อ จิ๋นซีฮ่องเต้ ผู้ทรงมีพระปรีชาสามารถในการรวบรวมอาณาจักรน้อยใหญ่มาเป็นประเทศจีนที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล เป็นกษัตริย์ที่มีอำนาจสูงสุดและสร้างผลงานที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก คือ กำแพงเมืองจีน พระองค์สามารถสั่งการได้ทุกอย่างที่อยากได้ ยกเว้นสิ่งเดียวเท่านั้น ที่พระองค์กังวลที่สุดก็คือ ความตายที่ทุกคนหนีไม่พ้น ดังนั้น พระองค์จึงได้พยายามหาทุกวิถีทางที่จะทำให้มีชีวิตอยู่ยืนนานเป็นอมตะตลอดการได้ จึงได้สั่งการให้บรรดาหมอจากทั่วสารทิศ ให้ค้นหาตำรับตำราและสุดยอดสมุนไพร มาถวาย ซึ่งก็ยังไม่เป็นที่พอพทัยของพระองค์ท่านได้ จึงได้สั่งการให้แม่ทัพใหญ่ที่ชื่อ ฉีฝู (Xú Fú) ให้นำทัพไปทางตะวันออก เพื่อไปหาสุดยอดสมุนไพรที่เป็นยาอายุวัฒนะทำให้ชีวิตอมตะได้ตามคำแนะนำของหมอหลวงประจำราชสำนัก ซึ่งฉีฝูได้นำทัพไปนานพอสมควรจึงกลับมามือเปล่า เพราะไม่สามารถหาสมุนไพรดังกล่าวได้ ด้วยความที่พระองค์ท่านมีพระราชอำนาจล้นฟ้า หากข้าราชบริพารใด ไม่สามารถปฏิบัติตามพระประสงค์ได้ มักจะถูกประหารชีวิตทันที ซึ่งฉีฝูก็ตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น แต่ก่อนที่จะถูกนำไปประหารชีวิตนั้น ฉีฝูได้ขออนุญาตชี้แจงว่า สุดยอดสมุนไพรที่ต้องการมีอยู่จริง ในสถานที่ที่ลี้ลับและมีการป้องกันอันหฤโหด บนยอดเขาเผิงไหล(น่าจะเป็นยอดเขาฟูจิในปัจจุบัน) อยู่กลางทะเลไกลโพ้น ดังนั้นกำลังที่นำไปครั้งนั้นมีน้อยเกินไป ส่วนใหญ่จะเป็นทหารแก่และอาวุธไม่ดีพอ จึงขอพระราชทานชีวิตเพื่อจะไปเอาสุดยอดสมุนไพรนี้ให้จงได้ หากมีกำลังเพียงพอและอาวุธที่ดี จิ๋นซีฮ่องเต้ จึงยอมลดโทษประหารแล้วจัดไพร่พลอันประกอบด้วยทหารหนุ่ม 5,000 คน เรือสำเภา 60 ลำ ที่น่าแปลกที่สุด คือ ฉีฝูได้นำเอาเด็กๆชายหญิงไปด้วยกว่า 3,000 คน ยกกองทัพไปแบบยิ่งใหญ่ มุ่งทัพไปยังเกาะตะวันออก และก็ได้เจอสุดยอดสมุนไพรดังกล่าว ก็คือ เห็ดจ้าวหลินจือ หรือภาษาญี่ปุ่นเรียก เมชิมาตาเก๊ะ และก็รู้ดีว่า แม้ว่าจะเจอสุดยอดสมุนไพรแล้ว หากนำไปถวายก็จะต้องเจอโทษประหารชีวิตอยู่ดี ดังสุภาษิตที่ว่า เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกษาฆ่าขุนพล ฉีฝูจึงตั้งรกรากอยู่ที่เกาะแห่งนี้ ก็คือ ประเทศญี่ปุ่นปัจจุบัน
โดยการยกทัพไปครั้งนี้ ฉีฝูได้นำเอาตำรับตำราการทำการเกษตร ยาสมุนไพร การทอผ้าไหม ไปด้วย ทำให้ฉีฝูกลายเป็นเทพที่สำคัญที่คนญี่ปุ่นเคารพนับถือสืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน จึงไม่แปลกใจว่า ญี่ปุ่นเป็นผู้นำการวิจัยเรื่องเห็ดเป็นยา และเห็ดเมชิมาตาเก๊ะหรือเห็ดต้นแงะ กลายเป็นเห็ดพระเอกที่ใช้เป็นส่วนสำคัญในการผลิตยารักษาโรคมนุษย์ที่สำคัญ เช่นเดียวกันกับประเทศเกาหลีใต้ ทางรัฐบาลเกาหลีใต้ให้ความสำคัญในการศึกษาเห็ดชนิดนี้ในระดับชาติ และเป็นเห็ดชนิดเดียวเท่านั้น ที่ทางราชการอนุญาตให้ใช้เป็นยารักษาโรคเรื้อรังหลายชนิดแก่มนุษย์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และกลายเป็นสินค้าที่สำคัญในการส่งออก ทั้งในรูปของยารักษาโรคและส่วนประกอบที่สำคัญในส่วนผสมของเครื่องสำอางอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น