google.com, pub-7156051143880097, DIRECT, f08c47fec0942fa0

วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2567

งานวิจัยของนักวิจัยไทย เกี่ยวกับเห็ดกระถินพิมาน

 มีงานวิจัยของนักวิจัยไทย เกี่ยวกับเห็ดกระถินพิมาน (Phellinus igniarius) อยู่บ้างค่ะ แม้จะยังไม่มากเท่ากับงานวิจัยจากต่างประเทศ ตัวอย่างงานวิจัยที่พบ เช่น

1. ด้านฤทธิ์ทางชีวภาพ:
  • ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียของสารสกัดจากเห็ดหิ้งชนิด Phellinus igniarius (Antioxidant and Antibacterial Activities of Extracts from Mushroom Phellinus igniarius) ตีพิมพ์ในวารสาร King Mongkut's Agricultural Journal ปี 2555
  • งานวิจัยนี้ศึกษา สารสกัดจากเห็ดกระถินพิมาน ที่เก็บจากจังหวัดเชียงใหม่
  • พบว่ามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และต้านเชื้อแบคทีเรียบางชนิดได้
  • การศึกษาองค์ประกอบทางเคมีและฤทธิ์ทางชีวภาพของสารสกัดจากเห็ดหิ้ง (Phellinus igniarius) (Study of Chemical Constituents and Biological Activities from Phellinus igniarius)
  • เป็นวิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ปี 2559
  • ศึกษาองค์ประกอบทางเคมี และฤทธิ์ทางชีวภาพ เช่น ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย และฤทธิ์ต้านมะเร็ง ของสารสกัดจากเห็ดกระถินพิมาน ที่เก็บจากจังหวัดเชียงราย
2. ด้านการเพาะเลี้ยง:
  • การศึกษาอิทธิพลของอาหารเลี้ยงเชื้อต่อการเจริญของเส้นใยเห็ด Phellinus igniarius ในสภาพห้องปฏิบัติการ (Effect of Culture Media on Mycelial Growth of Phellinus igniarius under Laboratory Conditions) ตีพิมพ์ในวารสาร Agricultural Sci. J. ปี 2558
  • งานวิจัยนี้ศึกษา สูตรอาหารเลี้ยงเชื้อ ที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเส้นใยเห็ดกระถินพิมาน
3. ด้านอื่นๆ:
  • นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ การใช้ประโยชน์จากเอนไซม์ ที่สกัดจากเห็ดกระถินพิมาน ในกระบวนการย่อยสลายลิกนิน ในอุตสาหกรรมต่างๆ
  • อย่างไรก็ตาม งานวิจัยเกี่ยวกับเห็ดกระถินพิมานในประเทศไทย ยังมีจำนวนไม่มากนัก เมื่อเทียบกับเห็ดชนิดอื่นๆ ซึ่งอาจเป็นโอกาส สำหรับนักวิจัยไทย ในการศึกษา และพัฒนาต่อยอด องค์ความรู้เกี่ยวกับเห็ดชนิดนี้ ต่อไปในอนาคต

การนำไปใช้ประโยชน์ และงานวิจัย เกี่ยวกับเห็ดกระถินพิมาน

 สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ การนำไปใช้ประโยชน์ และงานวิจัย เกี่ยวกับเห็ดกระถินพิมาน (Phellinus igniarius)

เห็ดกระถินพิมาน (Phellinus igniarius) เป็นเห็ดที่มีศักยภาพในการนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เนื่องจากมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพหลายชนิด

1. สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่พบ

  • โพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharides): โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เบต้า-กลูแคน (β-glucans) มีฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ต้านเนื้องอก ต้านมะเร็ง
  • ไตรเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoids): มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านเนื้องอก ต้านไวรัส
  • สารประกอบฟีนอลิก (Phenolic compounds): เช่น กรดกาลิก (gallic acid) มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านมะเร็ง ต้านเบาหวาน
  • เอนไซม์ (Enzymes): เช่น แลคเคส (laccases) มีฤทธิ์ย่อยสลายสารประกอบลิกนิน (lignin)
  • สารอื่นๆ: เช่น สเตอรอล (sterols) เลคติน (lectins)

2. การนำไปใช้ประโยชน์

  • การแพทย์แผน tradicional: ใช้รักษาโรคต่างๆ เช่น โรคกระเพาะ โรคตับ โรคมะเร็ง
  • การแพทย์สมัยใหม่:
  • พัฒนาเป็นยารักษาโรค: มีการศึกษาวิจัย เพื่อพัฒนาเป็นยารักษาโรคมะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
  • ส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร: เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมภูมิคุ้มกัน
  • การบำบัดมลพิษ: เอนไซม์แลคเคส ใช้ในการย่อยสลายสารมลพิษ

งานวิจัย

  • มีงานวิจัยจำนวนมาก ที่ศึกษาเกี่ยวกับ เห็ดกระถินพิมาน เช่น
  • ฤทธิ์ต้านมะเร็ง: พบว่าสารสกัดจากเห็ดกระถินพิมาน มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่
  • ฤทธิ์ต้านเบาหวาน: พบว่าสารสกัดจากเห็ดกระถินพิมาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
  • ฤทธิ์ต้านการอักเสบ: พบว่าสารสกัดจากเห็ดกระถินพิมาน มีฤทธิ์ลดการอักเสบ

3. สถานะปัจจุบันและอนาคต

  • เห็ดกระถินพิมาน เป็นเห็ดที่มีศักยภาพ ในการนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์
  • ปัจจุบัน ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาวิจัย เพื่อพัฒนาเป็นยารักษาโรค และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
  • ในอนาคต เห็ดกระถินพิมาน อาจกลายเป็นแหล่งที่มาของยา และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ที่สำคัญ
  • อย่างไรก็ตาม ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปใช้ในการรักษาโรคได้เอง ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่ทำจากเห็ดกระถินพิมาน