วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

การเพาะเนื้อเยื่อ-4



ทำ ซับคัลเจอร์

-=อันนี้เข้าใจละ เหมือนว่าเราได้เมียแม่หม้ายลูกสาวติด  เราเพาะกับแม่แล้ว ได้น้อยทำ ซับคัลเจอร์ ต่อกับลูกอีกรอบเพื่อเพิ่ม ปริมาณแบบทวีคูณ

=ขอคำแนะนำเรื้องตู้ปลอดเชื้อครับ
จุดประสงค์ ไม่ได้เอาไปรับจ้างใคร เพาะในสวน เช่นกล้วยหายาก ใผ่ต่างๆ  หรือพันไม้ถึงราคาถูกๆแต่ต้องใช้ครั้งละ หลายร้อยต้น ต่อการปลูกหนึ่งรอบ
บางครั้งค่าพันธ์กินต้นทุนไปหมื่นกว่าแล้ว อย่าต้นรัก ใช้ที หนึ่งถึงสามพันกิ่ง กว่าจะได้สักร้อยสองร้อยกิ่ง เฮ้อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถอนใจกันแบบนี้

เอาที่เกษตรกร เอื้อมถึง หยิบจับได้ครับ
ทำเอง จะต้องเริ่มแบบไหน  อุปกรณ์ ที่ต้องเตรียมติดตั้ง  มันง่ายหรือยาก เกินความสามารถชาวสวนหรือไม่

ซื้อสำเร็จ ถูกที่สุด ที่ท่านพี่ผู้มีประสบการณ์ใช้งาน คิดว่า ใช้แล้วไม่สร้างปัญหา แบบเสียน้อยเสียยาก ครับ

อันไหนน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีครับ เพาะดูๆแล้ว จะเหลวหรือสำเร็จ ค่อนๆของงาน อยู่ที่ตู้นี่ละครับ

 





-------------------------------------------------------------------------
ใบมีเบอร์ 22 ,24 ใบใหญ่ใช้สำหรับตัดชิ้น ตายอด ตาข้าง เนื้อเยื่อ
รวมๆกัน ทั้ง ใบคารบ้อน และใบสแตนเลส
ซื้อทั้งParabola และ Feather อย่างละกล่อง ครับ(สองตัวนี้คือ อุปกรณื เอาไว้ทำอะไรครับ)
--------------------------------------------------------------------------------------
ขยายความ
ใบมีดเบอร์ 10 ใบโค้งใบเล็ก ที่ใช้กับด้าม เบอร์3
ใบมีดเบอร์ 11ใบปลายแหลม ที่ใช้กับด้าม เบอร์3
ใบมีดเบอร์ 22 ใบโค้งใบใหญ่ ที่ใช้กับด้าม เบอร์ 4
ใบมีดเบอร์ 24 ใบโค้งปลายแหลม ที่ใช้กับด้าม เบอร์4
ชนิดของใบมีด มีทั้งเป็นใบคารบ้อน และใบสแตนเลส
ระยะแรกเลือกเอาชนิดสแตนเลส มาใช้ก่อน เพราะทนไฟเผาได้บ่อยๆ
ตัดได้หลายครั้ง ประหยัดดีครับ ใบคาร์บ้อนคมมาก แต่ไม่ทนเผาไฟไม่กี่ครั้งจะหมดความคม ครับ

Paragon ,Parabola,Feather เป็นยี่ห้อครับ แต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติ
แตกต่างกันไปแล้วแต่งาน บางยี่ห้อแข็ง บางยี่ห้อมีสปริง จะบรรจุมา 100ใบมีด ครับ

ต้องเลือกใช้ ต้องสร้างความคุ้นเคยครับ ใบมีดพวกนี้คมมากใช้งานต้องระวังอย่างมาก ครับ
เพราะเมื่อตัดจะไม่เกิดการช้ำของเนื้อเยื่อเลย อย่าลืมว่าตัดนะครับไม่ใช่เถือ
ถูไปถูมา

แล้วแปลกอย่างจะโดนบาดกันแทบทุกรุ่นที่บรรยาย ครับ
ก่อนใช้งาน ควรฝึกฝนการถอดใส่ใบมีดกับด้ามอย่างถูกวิธี ด้วยครับ
เพื่อความปลอดภัย

ไปค้นๆของที่ใช้  จำเป็นต้องใช้มา  เอามาเรียงๆให้ดูรูปร่างมันคร่าวๆ ก่อนครับ








------------------------------------------------------------
เรื่องตู้เอาไว้ก่อน
---------------------------------
ที่จริงเรื่องนี้สำคัญ แต่ตามใจคุณน้อง ครับ ผมไม่ขัดอยู่แล้วครับ

-----------------------------------------
สมมุติ น้อง ยิงฟันยิ้ม  จะลงมือทำละ

ต้องเตรียมอาหารก่อน
แบบนี้ใช้ได้ปะ
น้ำ 500 มล  น้ำตาล(ทรายมั๊ง ขาวหรือแดง เขาไม่ได้บอก แบบนี้ละที่สอนไม่ละเอียด) 30กรัม
ปุ๋นสูตร 10-10-10 (แบบไหนยังไม่รู้)  2 กรัม  วิตามิน b คอมเพลก 500มล  ครึ่งเม็ด   น้ำมะพร้าว(อ่อนแก่เขาไม่บอก)  120 มล
วุ้น  7-10 กรับ (เอาสัก 8.5 ละกัน)

ใช้ได้ปะแบบนี้ อาหารเลี้ยงกล้วย เพราะถ้าหาซื้ออย่างอื่นมามันคงเกินความจำเป็น กับกล้วย ร้อยต้น ประมาณนี้ ยิงฟันยิ้ม
--------------------------------------------------------------------------------------
อาหารที่ท่านโพสเขียนมานี้ ผมไม่ทราบเลย ไม่เคยเรียน ไม่เคยใช้ครับ
จึงตอบไม่ได้ว่ามันจะได้ผลออกมาเป็นเช่นไร ให้ท่านนำไปทดลองใช้ก่อนก็แล้วกันนะครับ
ได้ผลประการใดก็เล่าถ่ายทอดให้เพื่อนๆทราบบ้างก็แล้วกันนะครับ

แต่บอกได้บางอย่างนะครับ น้ำที่เอามาใช้เป็นตัวทำละลาย จะใช้น้ำกลั่นทางการแพทย์ครับ
ไม่ได้เอาน้ำก๊อก น้ำฝนมาต้ม ครับ

หรือน้ำที่อยู่ในระดับ type ll reagent grede ต้องไม่มี pyrogens แก๊ส และอินทรีสาร
มีความต้านทานไฟฟ้าต่ำกว่า 1.0 เมกกาโอมเซนติเมตร มีค่า EC ต่ำกว่า 1.0
ไมโครซีเมนต์ต่อเซนติเมตร ครับ (เซอร์ท รายละเอียด อ่านเอาจากกูเกิลนะครับ เพราะถ้าเขียน
เรื่องน้ำเรื่องเดียว เดี๋ยวจะยาว ครับ

น้ำตาลที่ใช้เป็นน้ำตาลทราย ขาวหรือแดงก็ได้ เพื่อให้พลังงานกับเนื้อเยื่อ ครับ

ปุ๋ย อนิทรีย์เคมีทางคอมเมอร์เชียล มันจะมีสารฟิลเลอร์ที่เติมลงไปเพื่อให่ปุ๋ย เติมร้อย
เพื่อการจับเป็นเม็ดบ้าง เพื่อให้ปุ๋ยได้น้ำหนักบ้าง ให้มีสีสรรน่าใช้    พิลเลอร์ จะไม่มีผล
ในระบบรากปกติการดูดซึมของปลายรากรากอ่อน  แต่กับระบบเนื้อเยื่อผนังเซล มีผลครับ

น้ำมะพร้าวอ่อน มีกรดฮอโมนจิบเบอรลารีน ช่วยให้เซลเนื้อเยื่อพืชแข็งแรงขยายตัว ครับ
น้ำมะพร้าวแก่ เป็นตัวทำละลายอย่างหนึ่ง มีน้ำตาลในตัว ถ้าใช้น้ำมะพร้าวแก่เป็นตัวทำละลายแทนน้ำ
ก็ไม่ต้องใส่น้ำตาลไปที่สารอาหาร หรือใส่ก็ใส่เล็กน้อย ครับ แต่ผมไม่นิยมใช้ เพราะควบคุม
ปัจจัยความมากน้อย ไม่ได้ครับ ในงานทดลองใช้ได้   แต่ในงานรับจ้างไม่เสี่ยงดีกว่า ครับ

วุ้น นอกจากเจลไลท์ แล้ว ก็ใช้วุ้นไทยตรานางเงือก ครับ

การที่เราจะแอ๊บพลาย ดัดแปลง เราต้องทราบมาตรฐานที่ถูกต้องเสียก่อน เพื่อเอาไว้เป็น
ตัวอ้างอิงมาตรฐานเปรียบเทียบครับ ท่านลองใช้สูตรอาหารมาตรฐานของระบบเนื้อเยื่อเสียก่อน
เพื่อดูการเจริญของเนื้อเยื่อว่า สมควรกับเวลาที่เสียไปหรือไม่ ก่อนครับ ไม่ได้เกี่ยวกับ
ความคุ้มหรือไม่คุ้ม กับการทำกล้วย ร้อยต้นนะครับ ต้องเข้าใจตรงกันด้วยครับ

ที่ผมพยามเขียนบรรยายนี้  ก็เพื่อให้ท่านทราบสิ่งที่ถูกต้อง เป็นมาตรฐาน  ซะก่อนครับ
แล้วท่านจะไปแอ๊บพลายต่างจากมาตรฐานออกไปก็เป็นเรื่องของท่านแล้วครับ

สูตร มาตรฐาน ของกล้วยทั่วๆไปใช้สูตร Murashig & Skoog หรือทั่วๆไปเรียกว่าสูตร
MS

ระยะแรกนี้ผมแนะนำว่าอย่าผสมทำอาหารเองเลยครับ อาจซื้อสำเร็จที่เค้าผสมมาแล้ว
หรือทำมาเป็นวุ้นสำเร็จพร้อมขวด เราเพียงแต่มาตัดชิ้นเนื้อเยื่อใส่ แล้วเก็บในห้องสะอาด
ได้เลยจะสะดวก กว่าทำเองทั้งหมดครับ

บอกผู้จำหน่ายว่าเราขอสูตร MS ทำมาเป็นวุ้นใส่ในขวดเหลี่ยม จะเอามาขยายเนื้อเยื่อกล้วย

เซอร์ทดูครับจะมีผู้ทำอาหารเนื้อเยื่อ ขายในเวปอยู่หลายเจ้าครับ โดยสั่งขั้นต่ำสุดของเค้าก่อน
และควรไปรับของด้วยตัวเอง ถ้าซื้อสัตย์ไว้ใจได้ หลังโอนตังค์ไปแล้วไม่เงียบหาย มีสารอาหาร
ในวุ้นดี เนื้อเยื่อโตเร็ว ก็เป็นลูกค้ากันต่อไป  ครับ

----------------------------------------------------------------------------
ทำแล้วเขาบอกว่าให้เ าใส่ขวด แต่ไม่ได้บอกว่า ใส่ขนาดไหน เต็มขวด ครึ่งขวด แล้วเอาขวดตั้งไว้หรือนอนไว้
แล้วต้องรออะไรอีกหรือเปล่า หลังจากได้อาหารใส่ขวดแล้ว เก็บแบบไหน กี่วันถึงเอามาใช้  โกรธ

ไปโค่นกล้วยแบกกลัวยมาหนึ่งต้น  ต้องเอาส่วนไหนมาทำครับ
-----------------------------------------------------------------
อย่างที่บอก ระยะแรกซื้อสำเร็จเค้ามาตัดชิ้นเนื้อเยื่อใส่เอง แล้วปนเปื้อนติดเชื้อน้อยที่สุด
ทำไม่เยอะร้อยกว่าต้น จะเป็นการประหยัดที่สุด แล้วครับ

ขอบคุณที่จดหมายโพสมาหลังไมค์ จะมาหาผมที่ราชบุรี ผมยินดีสอนให้ทางนี้ครับ

พวกนี้ทางทฤษฎีบอกทีเดียวก็รู้แล้ว แต่จะให้เนียบต้องฝึกการปฏิบัติ ครับ
ฝึกทำบ่อยๆ ที่บ้านท่านก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมา มิใช่ผมจะไม่ชอบท่าน หรืออะไรนะครับ

มาหาผม ท่านเองนั่นแหละที่จะไม่สะดวก เพราะถ้าจะมาเรียนต้องมาเรียนติดต่อกันหลายวัน
เพราะท่านเริ่มจากศูนย์ กว่าจะเป็น พอทำงานได้ ท่านก็ฝึกตัดชิ้งงาน ฝึกฟอกชิ้นงาน
ฝึกการใช้อุปกรณ์ของในตู้ ให้คล่อง ที่บ้านท่านสะดวกที่สุดแล้ว ครับ

การปนเปื้อนติดเชื้อเท่ากับศูนย์เมื่อไหร่นั้นแหละครับท่านประสพ
ความสำเร็จแล้ว ครับ


ฟรี ครับ ไม่ต้องเสียสตางค์ อย่างที่บอกนั่นแหละ ปัจจุบันผมเลิกหาเงินแล้วครับ
ต้องขอบคุณท่านด้วยครับ โดยส่วนตัวไม่อยากให้ความรู้ที่ผมสะสมมา ตายไปกับตัว ครับ

ไม่อยากให้ท่านต้องมาลำดับขั้นตอนศึกษา นับ หนึ่ง สอง สาม สี่ ใหม่ แบบผม
อยากให้ท่านเอาไปต่อยอด ห้า หก เจ็ด จากผมไปได้เลย ครับ

เท่านี้ก่อนนะครับ ว่างๆจะมาพิมพ์ต่อให้ใหม่ครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น